เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่โรงแรมคุ้มภูคำ จ.เชียงใหม่ นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา ภาคเหนือ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า เรื่องที่มีผู้ร้องเรียนมากที่สุดคือ การลักทรัพย์ รองลงมาคือการลุแก่อำนาจของผู้บริหาร ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดจากการบริหารงานบุคคล ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ จะต้องมีธรรมาภิบาลในการใช้อำนาจโยกย้ายแต่งตั้งครู จึงต้องคำนึงเสมอว่าผู้ที่มาติดต่อขอโยกย้ายแต่งตั้งคือลูกหลานตัวเอง หากไม่มีความจำเป็น คงไม่มาขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันเรื่องการให้วิทยฐานะจะต้องสะท้อนถึงคุณภาพการศึกษาในอนาคตด้วย
"การปรับบทบาทหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ นั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาหลายๆ เรื่อง โดยต้องนำเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน และการดำเนินการทั้งหมดของ อ.ก.ค.ศ.มาดูก่อน ที่มีกระแสว่าอาจจะปรับองค์ประกอบ และอาจจะลดอำนาจบทบาทของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมกับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้เสนอระบบการปฏิรูปครู การสรรหาครูที่จะใช้โครงการคุรุทายาทเป็นต้นแบบ โดยอาจปรับเป็นระบบปิด เพื่อให้ครูที่อยู่ในท้องถิ่นมีโอกาสกลับมาอยู่ในท้องถิ่น และสร้างคนในท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้า อย่างน้อยครูต้องอยู่ในท้องถิ่นไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี" นพ.กำจรกล่าว
ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 28 ส.ค. 2558 (กรอบบ่าย)