ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลประชุมองค์กรหลัก ศธ. 25 สิงหาคม 2558


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 27 ส.ค. 2558 เวลา 03:53 น. เปิดอ่าน : 5,843 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยพลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมกับผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุม MOC อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

 

รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า ได้รับฟังแนวทางการดำเนินงานของ 5 องค์กรหลักตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องต่างๆ ซึ่งเป็นการขยายความเพิ่มเติมจากที่ได้นำเสนอไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม) โดยตนได้ขอให้เพิ่มเติมแนวทางดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีใน 2 ประเด็น คือ

ผลประชุมองค์กรหลัก ศธ. 25 สิงหาคม 2558

การลดเวลาเรียนของเด็กให้น้อยลง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปพิจารณาปรับลดชั่วโมงเรียนของบางวิชาให้น้อยลง เพื่อต้องการให้เด็กผ่อนคลาย ไม่เครียดในการเรียนมากเกินไปหรือต้องหอบการบ้านไปทำต่อที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีเวลาที่จะอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น หรือมีเวลาว่างเรียนรู้ตามวัย คิดบ้างทดลองปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่ท่องตำราอย่างเดียว โดยอาจจะเลิกเรียนในชั้นเรียนเวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนเวลาที่เหลือให้ สพฐ.ไปพิจารณารายละเอียดและกิจกรรมว่าควรดำเนินการอย่างไรกับเด็ก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่จะเดินทางกลับบ้าน หรือกลุ่มซึ่งรอกลับบ้านพร้อมผู้ปกครองหลังเลิกงาน

ทั้งนี้ สพฐ.จะนำร่องโรงเรียนในสังกัดประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมด 38,000 โรงเรียนก่อน เริ่มต้นได้ทันทีในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ดังนั้นจึงขอให้ สพฐ.จัดระบบนิเทศและเตรียมการให้ดีในช่วงปิดภาคเรียนนี้ รวมทั้งสร้างความเข้าใจร่วมกันกับโรงเรียน นักเรียน ครู ผู้ปกครองในการดำเนินการด้วย

การเน้นการสอนอาชีพเฉพาะด้านของกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) เพื่อต้องการให้ มทร.แต่ละแห่งมีจุดเด่นในการผลิตผู้เรียนในแต่ละสาขาอาชีพเฉพาะทางแตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากจะต้องปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรแล้ว จะต้องพัฒนาครูผู้สอนและเครื่องมือช่วยสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็วภายในเดือนกันยายน 2559 อาจจะเริ่มต้นจาก 2-3 แห่งก่อน โดยจัดให้มีทั้งสถาบันหลักและรองลงไปในแต่ละสาขา เช่น มทร.ตะวันออก แม้จะมีความชำนาญด้านการสอนต่อเรือ แต่ก็ต้องวางแผนจัดระบบสำหรับเด็กที่อยู่ห่างไกลในภาคอื่นเช่นภาคใต้ที่ต้องการเรียนในสาขาอาชีพนี้ ซึ่งอาจต้องมี มทร. ระดับรองลงไปในภาคใต้ที่มีความพร้อมในการสอนสาขาอาชีพดังกล่าวรองรับด้วย

 

แนวทางการดำเนินงานของ 5 องค์กรหลัก ตามนโยบายรัฐบาล
รวมทั้งปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องต่างๆ

1. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) โดยนายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำเสนอถึงนโยบายการดำเนินงานที่สำคัญ 5 เรื่อง คือ

1) การปรับปรุงคุณภาพครูให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งมีโครงการสำคัญที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น โครงการคุรุทายาท แนวทางการพัฒนา/สรรหา/ประเมินวิทยฐานะ/เลื่อนตำแหน่ง/ย้ายครูผู้สอน ใบประกอบวิชาชีพครู การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู การแก้ปัญหาการขาดแคลนครู ฯลฯ
2) การเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ คือ การส่งเสริมการศึกษาปฐมวัย การแก้ปัญหาเด็กออกกลางคัน การฝึกวิชาชีพระยะสั้นหรือส่งเสริมรายได้ให้แก่ประชาชน การส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ค่านิยมหลัก 12 ประการ
3) การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา คือ การจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีทางการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Distance Learning Information Technology : DLIT)
4) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจัดตั้งศูนย์ครูใต้ที่ จ.ยะลาและนราธิวาส การจัดการศึกษานอกระบบเพื่อสร้างโอกาสการมีอาชีพมีงานทำ การจัดโครงการ DLIT การช่วยเหลือเยียวยาครูที่เสียชีวิตและทุพพลภาพ
5) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คือ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์อาเซียนด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ การพัฒนาทักษะการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้าน และการพัฒนาอาชีพรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่ชายแดน

2. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โดยนางสุทธศรี วงษ์สมาน เลขาธิการสภาการศึกษา ได้นำเสนอการดำเนินงานตามนโยบายและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในประเด็นต่างๆ ดังนี้ ร่างวิสัยทัศน์และกรอบทิศทางการพัฒนาการศึกษาระยะ 5 ปี (พ.ศ.2559-2563) การปฏิรูปการศึกษาในภาพรวมทั้งระบบ การทบทวนปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ การจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ (พ.ศ.2560-2574) และแผนพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย การศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบสภาวะการศึกษาไทยในเวทีโลก และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

3. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยนายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้นำเสนอในประเด็นการปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน เด็กจบ ป.1 ต้องอ่านออกเขียนได้และต้องมีการประเมินผลที่เป็นรูปธรรม การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเสริมทักษะอาชีพเด็กชั้น ม.1 ถึง ม.6 (ทวิศึกษา) ที่ต้องเลือกเรียนวิชาเสริมเป็นสาขาวิชาชีพเพื่อการวางแผนอาชีพในอนาคตได้ การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการปรับลดเวลาเรียนของเด็กให้น้อยลง

4. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้นำเสนอ

1) ประเด็นเชิงนโยบายรัฐบาล 6 เรื่อง คือ การเพิ่มปริมาณผู้เรียนสายอาชีพ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ สอศ.มีนักศึกษาใหม่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ซึ่งรวมถึงโครงการทวิศึกษาด้วย, การพัฒนาทักษะอาชีพประชาชนทุกช่วงวัย 1 ล้านคน, การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษาอาชีวะ, โครงการอาชีวะมาตรฐานสากลโดยร่วมมือกับประเทศชั้นนำของโลกด้านอาชีวศึกษา 7 ประเทศ คือ เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ อิสราเอล อังกฤษ และไต้หวัน, การเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษเพื่องานอาชีพและพัฒนาฝีมือแรงงานให้สถานประกอบการ, การเพิ่มบทบาทของสถานประกอบการในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ซึ่งปัจจุบันมีความร่วมมือ 10,527 แห่ง นักศึกษา 89,489 คน ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอแนะให้สถานศึกษากลุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทได้จับคู่กับสถานประกอบการเพื่อจัดระบบทวิภาคีให้ผู้เรียน ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อีกทางหนึ่งด้วย
2) ประเด็นเร่งด่วน 4 เรื่อง คือ ทวิศึกษา หรือนักเรียนเรียนหลักสูตร ม.ปลายคู่ ปวช. ในโรงเรียนมัธยมฯ โดยจะเสนอของบกลางดำเนินการเพิ่มอีก 92 ล้านบาท, การของบประมาณเพิ่มเพื่อสร้างศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ จ.สงขลาอีก 302 ล้านบาท หลังจากใช้งบฯ ก่อสร้างไปแล้วกว่า 835 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเติม, การแก้ปัญหาขาดแคลนครูอาชีวศึกษาโดยขอกรอบอัตรา 7,455 อัตรา ใช้งบประมาณ 1,610 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้อัตราส่วนครู : นักศึกษา จากปัจจุบัน 1 : 44 เหลือ 1 : 27 (สัดส่วนที่เหมาะสมคือ 1:20), ทุนช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ (TTS) ระยะเวลา 15 ปี (พ.ศ.2558-2572) งบประมาณ 29,059 ล้านบาท เพื่อส่งนักศึกษาอาชีวะไปศึกษาต่อในและต่างประเทศ 5 รุ่น รวม 11,500 คน

5. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) โดยนายพินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เสนอการแนวทางดำเนินงานของ สกอ. ดังนี้

1) ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการผลิตครูตามโครงการคุรุทายาท, การพัฒนาครูโดยใช้เครือข่ายสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา, การจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ ผ่านโครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ (UBI) 60 แห่ง และการส่งเสริมการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการเรียนรู้กับการทำงาน (WIL) เช่น สหกิจศึกษา, การส่งเสริมศูนย์ความเป็นเลิศ 11 ศูนย์ในการสร้างงานวิจัยเชิงพาณิชย์ฯ, โครงการวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ
2) ข้อขัดข้องที่ให้พิจารณาผลักดัน อาทิ พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ. ...., ร่างประกาศกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ได้แก่ เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา และแนวทางการบริหารเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา, การแก้ไขเยียวยาให้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาสายวิชาการ (ร้อยละ 8), โครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลกระยะ 20 ปี วงเงิน 43,196 ล้านบาท, โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการวิจัยเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี 9,300 ล้านบาท, โครงการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยระดับโลก, โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่, โครงการกองทุนตั้งตัวได้

นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้ขอให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนและจัดทำข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ในการวางแผนดำเนินการตามนโยบาย เพราะที่ผ่านมาหลายหน่วยงานและหลายกระทรวงก็ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากนัก หรืออาจนำแนวทางดำเนินการจัดทำ "ตารางประสานสอดคล้อง" มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน ส่วนการแก้ไขปัญหาต่างๆ นั้น กระทรวงศึกษาธิการควรจะต้องนำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ มากางให้สังคมดูว่าจะแก้ปัญหาให้ถูกทางได้อย่างไร

ทั้งนี้ แม้จะเร่งการทำงานตามนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นด้วย. 

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


ผลประชุมองค์กรหลัก ศธ. 25 สิงหาคม 2558ผลประชุมองค์กรหลักศธ.25สิงหาคม2558

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 5/2557

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 5/2557

เปิดอ่าน 12,133 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ประชุมองค์กรหลัก ศธ ครั้งที่ 20/2558
ประชุมองค์กรหลัก ศธ ครั้งที่ 20/2558
เปิดอ่าน 5,560 ☕ คลิกอ่านเลย

รมว.ศธ.เปิดเผยกรณีปัญหาการสอบครูผู้ช่วย
รมว.ศธ.เปิดเผยกรณีปัญหาการสอบครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 11,364 ☕ คลิกอ่านเลย

ศธ.หารือ สสค.เพื่อปรับปรุงแนวทางจัดสรรงบฯ ให้ถึงเด็กยากจนตัวจริง 2 ล้านคน
ศธ.หารือ สสค.เพื่อปรับปรุงแนวทางจัดสรรงบฯ ให้ถึงเด็กยากจนตัวจริง 2 ล้านคน
เปิดอ่าน 4,379 ☕ คลิกอ่านเลย

มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ
มาตรฐานเว็บไซต์ภาครัฐ
เปิดอ่าน 6,996 ☕ คลิกอ่านเลย

ศธ.เร่งปฏิรูปหลักสูตรและพัฒนาครู
ศธ.เร่งปฏิรูปหลักสูตรและพัฒนาครู
เปิดอ่าน 8,247 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 11/2557 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557
ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 11/2557 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557
เปิดอ่าน 12,299 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
ต้านเหงือกติดเชื้อด้วยการกินโฮลวีท
เปิดอ่าน 9,801 ครั้ง

5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
5 วิธีปกป้องตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อบนโลกออนไลน์
เปิดอ่าน 1,875 ครั้ง

เชอร์รี่-บลูเบอร์รี่ นี่ล่ะ...สุดยอดผลไม้ชะลอวัย
เชอร์รี่-บลูเบอร์รี่ นี่ล่ะ...สุดยอดผลไม้ชะลอวัย
เปิดอ่าน 14,016 ครั้ง

ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
ปลูก "มะละกอ" สร้างรายได้ที่น่าทึ่ง
เปิดอ่าน 18,634 ครั้ง

วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.
เปิดอ่าน 11,319 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ