รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ให้มีการจัดการศึกษาโครง การเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยม ศึกษาตอนปลาย หรือ ทวิศึกษา นั้น ในส่วนของการศึกษานอกระบบ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้มีการคัดเลือกจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ที่จะก่อให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุนของภาคธุรกิจ เกิดการสร้างงาน มานำร่องตามโครง การดังกล่าว จำนวน 23 จังหวัด โดยเปิดสอนสายสามัญควบคู่กับสายวิชาชีพระดับประกาศนีย บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในหลายสาขาวิชา เช่น คอมพิวเตอร์ธุรกิจ การโรงแรม การท่องเที่ยว ช่างเชื่อมโลหะ ช่างไฟฟ้ากำลัง ช่างยนต์ ช่างก่อสร้าง โทรคมนาคม เป็นต้น
ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งพบว่าได้ผลดีพอสมควร ผู้เรียนสนใจที่จะเรียนเพื่อเพิ่มพูนความรู้สายวิชาชีพ แต่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องของเวลาเรียนบ้าง ศธ.จึงมอบให้ กศน.ไปดำเนินการจัดการเรียนการสอนในช่วงเย็นที่เรียกว่า ทไวไลท์ เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่นักศึกษาที่จะมาเรียนด้วย ซึ่งขณะนี้ สำนักงาน กศน.กำลังดำเนินการอยู่ อย่าง ไรก็ตามเวลานี้มีผู้กังวลว่าเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐมนตรี แล้วจะทำให้โครงการนี้สะดุด ขอยืนยันได้ว่าไม่มีผลเพราะเป็นนโยบายกระทรวง ถึงแม้จะเปลี่ยนรัฐมนตรีโครงการก็ต้องดำเนินต่อไป ที่สำคัญโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่จะส่งเสริมให้เด็ก ม.ปลาย มองเห็นเส้นทางการประกอบอาชีพได้.
ที่มา เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 27 ส.ค. 2558 (กรอบบ่าย)