รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลักเกณฑ์ สาขาวิชาเอก และเขตพื้นที่การศึกษา 112 เขต ที่จะเปิดสอบบรรจุครูผู้ช่วย สพฐ. ครั้งที่ 2 ปี 2558 ซึ่งมีอัตราว่างกว่า 8,000 อัตรา
พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 8/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายละเอียดและหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่ง ครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในการประชุมดังกล่าว นางสุจิตรา พัฒนะภูมิ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับการที่สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.6/ว 18 ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 โดยกำหนดให้ สพฐ.เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับออกข้อสอบ ซึ่งขณะนี้ สพฐ. มีอัตราว่างที่ต้องเร่งบรรจุและแต่งตั้งกว่า 8,000 อัตรา
ต่อมาในการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 8/2558 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสอบดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญสรุปดังนี้
1) คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัคร
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 และต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ตามมาตรฐานตำแหน่งผู้สมัครสอบแข่งขันซึ่งเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ต้องมีหนังสืออนุญาตจากผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้สมัครสอบแข่งขัน และยินยอมให้ย้ายหรือโอน โดยไม่มีเงื่อนไขเมื่อสอบแข่งขันได้
2) การดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2.1 กำหนดสัดส่วนตำแหน่งว่างเพื่อใช้ในการสอบแข่งขันและการคัดเลือก
2.2 กำหนดวันเวลาในการสอบแข่งขัน
2.3 กำกับติดตามการดำเนินการสอบแข่งขัน
3) การดำเนินการของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
อาจมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ตั้งกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการสอบแข่งขัน ตามความจำเป็นและความเหมาะสม
3.1 กำหนดกลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกที่ใช้ในการสอบแข่งขันตามความจำเป็นและความต้องการของสถานศึกษา
3.2 รวมกลุ่มกันในพื้นที่เขตตรวจราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการในสถาบันอุดมศึกษาที่เห็นสมควร เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการออกข้อสอบตามหลักสูตรท้ายหลักเกณฑ์และวิธีการนี้
3.3 กำหนดองค์ประกอบและคะแนนการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ
3.4 ดำเนินการรับสมัครและสอบแข่งขันตามวันและเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
3.5 กรณีที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาและหรือส่วนราชการต่างๆ ดำเนินการสอบแข่งขันพร้อมกัน ให้ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบแข่งขันได้เพียงแห่งเดียว หากปรากฏว่าผู้สมัครสอบแข่งขันสมัครเกินกว่าหนึ่งแห่งจะตัดสิทธิ์การสอบแข่งขันทั้งหมด
3.6 การดำเนินการสอบแข่งขัน หากปรากฏว่ามีการทุจริตหรือส่อไปในทางไม่สุจริต หรือดำเนินการผิดพลาดอันอาจเกิดความไม่เป็นธรรม ให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันพิจารณาแก้ไขหรือยกเลิกการสอบแข่งขันในครั้งนั้นได้
4) หลักสูตรการสอบแข่งขัน มี 3 ภาค ดังนี้
ภาค ก ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม และอุดมการณ์ของความเป็นครู มาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา และมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (150 คะแนน)
ภาค ข ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะสำหรับตำแหน่ง (150 คะแนน)
ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งและวิชาชีพ (50 คะแนน)
5) เกณฑ์ตัดสิน
ผู้สอบแข่งขันได้ จะต้องได้คะแนนแต่ละภาค ไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบ
6) การบรรจุและแต่งตั้ง ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่ง
7) อายุบัญชี
บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ให้ใช้ได้ไม่เกินสองปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ เว้นแต่มีการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในคุณวุฒิ กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกเดียวกันครั้งใหม่แล้ว บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งก่อนเป็นอันยกเลิก
8) การถูกยกเลิกบัญชี
ผู้สอบแข่งขันได้ถูกยกเลิกการขึ้นบัญชี เมื่อผู้นั้นมีกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
8.1 ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไปแล้ว
8.2 ขอสละสิทธิ์การบรรจุและแต่งตั้ง
8.3 ไม่มารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุและแต่งตั้งตามกำหนด
8.4 ไม่อาจรับการบรรจุและแต่งตั้งตามวันที่กำหนดได้
นอกจากนี้ สพฐ.ได้เปิดเผยข้อมูล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่เปิดสอบตำแหน่งครูผู้ช่วย ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2558 แล้ว จำนวน 112 เขตพื้นที่ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2558) ดังนี้
ข้อมูลตำแหน่งว่าง และสาขาวิชาเอกที่แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาเปิดสอบ
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ