แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้า (อค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้ลงนามคำสั่ง อค.ของ สกสค. ที่ 45/2558 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกรณีโอนหนังสือเข้าคลังสินค้าไม่ครบจำนวนและหนังสือไม่ครบจำนวนไปปรากฏอยู่ที่ใด กับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในเบื้องต้นจำนวน 2 คน การกระทำ ดังกล่าวเป็นความผิดทางวินัยตามระเบียบคณะกรรมการบริหาร อค. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของพนักงานเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง
อค.ของ สกสค. พ.ศ.2554 ข้อ 30 พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดอยู่เสมอ ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดวินัย จะต้องได้รับโทษ ข้อ 31 (2) ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอำนาจหน้าที่การงานของตน ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ (3) ต้องรักษาผลประโยชน์และไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการเสียประโยชน์ของ อค. (5) ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ มติของคณะกรรมการและคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งการในหน้าที่ ห้ามมิให้ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยง และ (7) ต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องรายงาน ถือเป็นการรายงานเท็จด้วย
หนังสือดังกล่าวระบุด้วยว่า คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯ มีนายวินัย รอดจ่าย กรรมการ กพฐ. เป็นประธาน มีอำนาจดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจสอบเอกสาร สถานที่ รวบรวมเอกสาร หลักฐาน วัตถุที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรับฟังและบันทึกปากคำ พยานบุคคล พยานผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือโดยเคร่งครัด และสรุปความเห็นเสนอต่อผู้อำนวยการ อค. เพื่อทราบและพิจารณาภายใน 30 วัน และในการสอบสวนหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นๆ หรือปรากฏว่ามีพนักงานเจ้าหน้าที่ของ อค.ผู้ใดผู้หนึ่งมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดทางวินัยด้วย ให้คณะกรรมการมีอำนาจดำเนินการทางวินัยได้ต่อไป
ด้านนายวินัยกล่าวว่า ตนรับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว โดยจะเรียกประชุมคณะกรรมการนัดแรกในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 12 ส.ค. 2558 (กรอบบ่าย)