"บิลเลี่ยน"แถชักดาบสกสค.
บริษัท บิลเลี่ยนฯ แถอ้างคำสั่ง คสช.ไม่ยอมชำระหนี้ สกสค. อ้าง คสช.ห้ามทำธุรกรรมกับ สกสค.แล้วจะจ่ายเงินให้ได้ยังไง "พินิจศักดิ์" ลั่นเตรียมฟ้องแพ่ง ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมอัยการ สำนักงานคดีแพ่ง ดูข้อกฎหมายแล้ว รวมทั้งเร่งคดีอาญาโดยเร็ว
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า การติดตามทวงจำนวน 2,500 ล้าน จากทางบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ที่กู้ยืมไปจาก สกสค.นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัท บิลเลี่ยนฯ ทำหนังสือแจ้งมายัง สกสค. ว่ายังไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามที่ทวงถามได้ เนื่องจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งห้ามบริษัท บิลเลี่ยนฯ ทำนิติกรรมกับ สกสค. ซึ่งทางบริษัท บิลเลี่ยนฯ ได้ทำหนังสืออุทธรณ์ถึงหัวหน้า คสช.ให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว ซึ่งถ้า คสช.พิจารณายกเลิกคำสั่งตามที่ยื่นอุทธรณ์ ทางบริษัท บิลเลี่ยนฯ ก็จะสามารถเสนอแผนการชำระเงินให้ทาง สกสค.ได้ ซึ่งประเด็นนี้ ตนมองว่าไม่ใช่เหตุผลที่บริษัท บิลเลี่ยนฯ จะไม่ชำระเงินตามเวลาที่กำหนด เพราะ คสช.มีคำสั่งห้ามทำนิติกรรมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ดังนั้นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยตนได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอัยการ สำนักงานคดีแพ่ง เพื่อขอให้ส่งอัยการมาช่วยดูข้อกฎหมาย เพื่อเรียกเงิน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับคืนจากบริษัท บิลเลี่ยนฯ ส่วนคดีอาญาอยู่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทาง สกสค.ก็ได้ทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีไปแล้ว
นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. ได้ลงนามในข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค.ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปณกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) พ.ศ.2558 โดยยกเลิกระเบียบคณะกรรมการ สกสค.ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ พ.ศ.2557 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวได้ปรับลดจำนวนกรรมการกองทุนฯ ลงจากเดิม 23 คน เหลือ 11 คน รวมถึงยังออกข้อกำหนดในระเบียบการบริหารกองทุน และการนำเงินไปลงทุน ว่าจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรรมการ สกสค.ทั้งหมด เนื่องจากเดิมจะมีปัญหาคณะกรรมการย่อยใน สกสค.สามารถออกระเบียบบริหารกองทุนต่างๆ ได้เอง ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านบริการบริหาร ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
เช่น กรณีเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษ ซึ่งธนาคารออมสินจะคืนให้กองทุนฯ 1% ของวงเงินที่สมาชิก ช.พ.ค.ขอกู้จากธนาคารออมสิน แต่ที่ผ่านมาเกิดปัญหาคณะกรรมการกองทุนฯ ออกระเบียบเอง โดยนำเงินดังกล่าวไปให้เฉพาะสมาชิกผู้เงิน และอีกส่วนหนึ่งไปใช้อย่างไม่ตรงวัตถุประสงค์ และการปล่อยกู้บริษัท บิลเลี่ยนฯ ก็เป็นหนึ่งในการลงทุนไม่ถูกวัตถุประสงค์ด้วยเช่นกัน.
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 4 สิงหาคม 2558