ปรับใหม่คุมเงินออมสินคืนกำไร
สกสค.ยกเลิกระเบียบกองทุนสนับสนุนพิเศษ ช.พ.ค. ออกเป็นข้อบังคับแทน ปิดช่องบริหารกันเองจนเป็นปัญหา ต่อไปทุกเรื่องต้องเข้าบอร์ด สกสค.
วันนี้ (3 ส.ค.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศธ. ฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. ได้ลงนามในข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค. ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา( ช.พ.ค.) พ.ศ.2558 โดยยกเลิกระเบียบคณะกรรมการ สกสค.ว่าด้วยกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ พ.ศ.2557 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าว มีส่วนที่แตกต่างจากระเบียบเดิมที่ยกเลิก คือการปรับลดจำนวนกรรมการกองทุนฯลงจากเดิม 23 คน เหลือ 11 คน รวมถึงการบริหารกองทุน ทั้งการออกระเบียบ และการนำเงินไปลงทุนจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรรมการสกสค.ทั้งหมด เนื่องจากเดิมจะมีปัญหาว่า สำนักงาน สกสค.สามารถออกระเบียบบริหารกองทุนต่าง ๆ ได้เอง ทำให้เป็นช่องโหว่ให้มีการบริการงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
“อยากทำความเข้าใจ ว่า แม้ที่มาของเงินกองทุนฯจะเกิดจากการที่สมาชิกกู้ยืมเงินตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ช.พ.ค. ซึ่งธนาคารออมสินต้องจ่ายคืนเป็นเงินสนับสนุนพิเศษฯ ให้แก่สำนักงาน สกสค. ร้อยละ 1 ของดอกเบี้ย แต่กองทุนฯดังกล่าวก็มีวัตถุประสงค์เพื่อสมาชิก ช.พ.ค.ทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะสมาชิกที่กู้เงินเท่านั้น คือ นอกจากมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงแก่สมาชิกช.พ.ค.ที่ร่วมโครงการเงินกู้ แล้ว ยังส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพ และความมั่นคงของสมาชิกช.พ.ค.รวมถึงเป็นเงินทุนสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากิจการ ช.พ.ค.ด้วย” นายพินิจศักดิ์ กล่าว
นายพินิจศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการติดตามทวงเงินที่ สกสค.นำไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับทางบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด จำนวน 2,500 ล้านบาทนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางบริษัท บิลเลี่ยนฯได้ทำหนังสือแจ้งมายัง สกสค. ว่า ยังไม่สามารถชำระเงินคืนได้ เนื่องจากหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งห้ามบริษัทฯ ทำนิติกรรมกับสกสค. ซึ่งทางบริษัทฯได้ทำหนังสืออุทธรณ์ถึงหัวหน้า คสช.เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว ซึ่งถ้ายกเลิกคำสั่งก็พร้อมชำระเงิน อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ไม่ใช่เหตุผลที่บริษัทบิลเลี่ยนฯไม่ชำระเงินตามเวลาที่กำหนด เพราะคำสั่งห้ามทำนิติธรรมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ดังนั้น สกสค.จึงได้ทำหนังสือถึงอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแพ่ง เพื่อขอให้มาช่วยดูข้อกฎหมาย เพื่อเรียกเงิน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยนับคืนจากบริษัทบิลเลี่ยนฯ ส่วนคดีอาญานั้นอยู่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อ่านต่อที่ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 สิงหาคม 2558