ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย จริงหรือไม่? มีอะไรบ้าง อ่านเลย!


ข่าวการศึกษา 1 ส.ค. 2558 เวลา 08:42 น. เปิดอ่าน : 12,315 ครั้ง
Advertisement

13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย จริงหรือไม่? มีอะไรบ้าง อ่านเลย!

Advertisement

นักวิชาการเผย 13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย

นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะชี้เด็กไทยยุคปัจจุบันไร้ความสามารถในการจัดการข้อมูล เสพสื่ออย่างไร้ความรับผิดชอบ ฉะสื่อเป็นตัวกระตุ้นเร่งเด็กเข้าถึงเรื่องเพศเร็วขึ้น

นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะ (สวส.) กล่าวเวทีระดับชาติว่าด้วยการอภิบาลอินเทอร์เน็ตของไทยที่ร่วมจัดกับภาคีเครือข่าย 16 องค์กร มีการเสวนาในหัวข้อ “การเฝ้าระวังเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน” ณ ห้อง 409 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเร็วๆ นี้ ถึงคนที่เกิดตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา หรือที่เราเรียกันว่า เจเนอรัลชันซี หรือ Gen C เป็นรุ่นที่มีปัญหามาก คือ เป็นกลุ่มที่หลงตัวเอง ขี้เกียจ ชอบพิทักษ์สิทธิ เป็นกลุ่มที่เกิดมาในยุคโซเชียลเลิร์นนิ่งสามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้จากอินเทอร์เน็ต ไม่มีใครมาผูกขาดทางความคิด เป็นยุคที่เด็กเลือกคัดลอกเนื้อหาจากอินเทอร์เน็ตแล้วส่งงาน ทำให้ปัจจุบันเด็กไทยมีปัญหาในการใช้ข้อมูล เรียกง่ายๆ ว่า เด็กบ้านเราใช้ข้อมูลไม่เป็น เวลาค้นหาข้อมูลในกูเกิลมีร้อยล้านข้อมูลแสดงขึ้นมา แต่สิ่งที่เด็กยุคนี้ทำคือคลิกเลือกข้อมูลลำดับที่ 1 2 3 แล้วคัดลอกมาวางเพื่อส่งนั้นแสดงให้เห็นถึงการไม่มีความสามารถในการจัดการความรู้

นายธาม กล่าวว่า ในปี 2015 เป็นยุคที่ผู้คนหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่ใช่การอัพเดทข้อมูลข่าวสารเว็บหลัก สิ่งที่เกิดขึ้นคือการเสพข่าวตามเพื่อนที่อยู่ในโลกโซเชียล เช่น โพสต์ข่าวแบบไหน แชร์แบบไหน คบใครก็ได้ข่าวแบบนั้น แชร์ข่าวจากใครก็ได้โลกทัศน์แบบนั้น ธุรกิจข้อมูลกับธุรกิจโทรคมนาคมกลายเป็นธุรกิจเดียวกัน เกิดการเสพสื่อ แชร์สื่ออย่างไม่มีความรับผิดชอบ

"เราจึงเห็นข่าวนักเรียนไทยไปนาซาร์ที่ดาวพลูโต เพราะเยาวชนในปัจจุบันนี้ชอบการสร้างอัตลักษณ์ตัวตน ชอบการสื่อสารในทันที สื่อสารข้ามวัฒนธรรม ชอบความมีปฏิสัมพันธ์ ปัจเจกชนนิยม และชอบแยกตัวโดดเดี่ยวจากสังคม"

นักวิชาการสถาบันการสื่อสารสาธารณะ กล่าวถึงพฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กว่า ในอดีตเด็กจะเลียนแบบดาราจากโทรทัศน์ แต่ในยุคโซเชียลเด็กเลียนแบบพฤติกรรมจากเน็ตไอดอล พริตตี้ อยากสวยอยากได้ยอดไลค์มากๆ ต้องถ่ายรูปแบบไหน ถ่ายแบบเห็นหน้าอก โชว์สัดส่วน มาจากการเลียนแบบจากบุคคลในโลกออนไลน์ ฉะนั้นสื่อออนไลน์จึงเปรียบเสมือนปุ๋ยชั้นดีที่เร่งให้เด็กเข้าถึงในเรื่องเพศมากขึ้น เด็กในต่างจังหวัดไปโรงเรียนถ่ายรูปแต่งตัวในห้องน้ำ เอามาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเรียกยอดไลค์ สื่อจึงทำให้เด็กสนใจแต่เรื่องความงาม เนื่องจากตลาดของความงามค่อนข้างจำกัดตลาด เด็กเสพติดการเซลฟี่ โพสต์รูปเพื่อรอจำนวนไลค์ ยอดแชร์ ส่งผลให้ความถนัดในคุณค่าเนื้อหาที่แท้จริงของเด็กไทยหายไป

นอกจากนี้ นายธามยัง กล่าวถึง 13 พฤติกรรมลบของการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตของเยาวชนไทยด้วยว่า

1.ใช้สื่อมากเกินไปในแต่ละวัน เสพติดอินเทอร์เน็ต ขาดปฏิสัมพันธ์กับสังคม

2.ใช้สื่อเปิดเผยอัตลักษณ์ส่วนบุคคลและข้อมูลที่อยู่บนเครือข่ายสาธารณะ

3.ใช้สื่อเข้าถึงเนื้อหาอันตราย สื่อลามก อนาจาร ยาเสพติด การพนัน

4.ใช้สื่อในธุรกรรมการเงิน ค้าขาย การสมัครสมาชิกกลุ่มที่ไม่เหมาะสม

5.ใช้สื่อเลียนแบบพฤติกรรมรุนแรงและการต่อต้านสังคม

6.ใช้สื่อบนเครือข่ายสนทนาออนไลน์และนำไปสู่การล่อลวงทางออนไลน์

7.ใช้สื่อออนไลน์ที่ไร้สาระ มุ่งเน้นเสพความบันเทิงมากเกินไป

8.ใช้สื่อสร้างสถานะภาพทางสังคม สร้างตัวตนเสมือน ติดกับดักการมีชื่อเสียง

9.ใช้สื่อในการรังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน ประณามเพื่อนออนไลน์

10.ใช้สื่อสร้างความเกลียดชัง อคติ และไล่ล่าแม่มด

11.ใช้สื่อที่ขาดทักษะในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

12.ใช้สื่อเพื่อลอกการบ้าน ทำรายงานวิชาการ คัดลอกขโมยข้อมูล

13.ใช้สื่อเพื่อการสร้างกระแสอารมณ์ดร่ามา

 

ที่มา สำนักข่าวอิศรา วันที่ 31 กรกฎาคม 2558

 


13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย จริงหรือไม่? มีอะไรบ้าง อ่านเลย!13 พฤติกรรมลบในการใช้สื่อของเยาวชนไทย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 13 ราย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567

เปิดอ่าน 26,453 ☕ 24 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 506 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 678 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 770 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,371 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,057 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 952 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
100อันดับโรงเรียนดีที่สุดปี58
เปิดอ่าน 103,492 ครั้ง

เทคนิคการเรียนรู้ของไฟยน์แมน (Feynman Learning Technique)
เทคนิคการเรียนรู้ของไฟยน์แมน (Feynman Learning Technique)
เปิดอ่าน 11,369 ครั้ง

Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก
เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง

รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
เปิดอ่าน 26,022 ครั้ง

จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข
จัดสิ่งแวดล้อมหน้าจอคอมพ์ ช่วยสุขภาพดี-ทำงาน มีสุข
เปิดอ่าน 10,492 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ