"รมว.ศธ." เดินเครื่องปฏิรูปคุรุสภา สั่งหดจำนวน คกก.บอร์ดใหญ่จาก 39 คน ให้เหลือประมาณ 20 คน ชี้ของเดิมใหญ่เกินไป รวมทั้งมอบคุรุสภาแก้ข้อบังคับ คัดกรอง ผู้บริหารสถานศึกษา ไม่จำเป็นต้องจบหลักสูตรบริหารสถานศึกษา ผู้ที่ทำการสอนดี มีคุณภาพ มีประสบการณ์ ก็ควรได้รับพิจารณา
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมได้มีมติให้แก้ไข พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 ในบางมาตรา อาทิ มาตรา 12 ว่าด้วยองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารคุรุสภา จากที่มีกรรมการที่ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการผู้แทนครู และประธานกรรมการ รวมทั้งสิ้น 39 คน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ ดังนั้นจึงเห็นว่าควรปรับลดจำนวนคณะกรรมการ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปพิจารณาว่าควรมีคณะกรรมการเหลือจำนวนเท่าใดจึงจะเหมาะสม ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าน่าจะอยู่ที่ 20 คน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นควรให้ปรับปรุงคณะกรรมการสรรหาเพื่อที่จะสรรหาคณะกรรมการเข้ามาทำหน้าที่ในคณะกรรมการคุรุสภาให้มีจำนวนที่เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ที่ในกฎหมายมาตรา 18 ที่ว่าด้วยคณะกรรมการสรรหาฯ ได้ให้อำนาจ กมว.ค่อนข้างซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการบริหารคุรุสภา ส่งผลให้มีปัญหาในทางปฏิบัติมาก ที่ประชุมจึงได้มอบให้คุรุสภาไปทบทวนว่ายังจำเป็นต้องมี กมว.อยู่หรือไม่ หรือตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่แทน
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องผ่านหลักสูตรบริหารสถานศึกษาก่อน จึงทำให้ครูที่เรียนต่อในระดับปริญญาโทจำนวนมากเลือกเรียนหลักสูตรบริหารสถานศึกษา แทนการเรียนต่อยอดเฉพาะทางในวิชาที่จบมา อาทิ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพราะการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาเฉพาะนั้นเรียนยากมาก แต่สายบริหารสถานศึกษาเรียนง่ายกว่า อีกทั้งยังมีสิทธิสอบเป็นผู้บริหารสถานศึกษาได้ด้วย เรื่องนี้ถือเป็นจุดอ่อนของการศึกษาอย่างหนึ่ง ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้แก้ไขข้อบังคับคุรุสภาในเรื่องดังกล่าว โดยต่อไปไม่จำเป็นต้องจบจากหลักสูตรผู้บริหารสถานศึกษา แต่ต้องมีหลักเกณฑ์การคัดกรองว่าต้องมีประสบการณ์อะไรบ้างจึงจะได้ใบอนุญาตฯ ผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาแห่ไปเรียนสาขาบริหารสถานศึกษาแล้ว ยังแก้ปัญหาการเปิดสอนหลักสูตรนี้จนฟุ้งเฟ้อ และยังสามารถลดปัญหาการจ่ายครบจบแน่ได้ด้วย.
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 30 กรกฎาคม 2558