ก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์สอบบรรจุ-ย้ายครู
"ณรงค์" เผยบอร์ด ก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์การย้ายข้าราชการครู พร้อมคลอดเกณฑ์ใหม่สอบบรรจุครูผู้ช่วย กำหนดให้สมัครสอบได้แห่งเดียว สกัดทุจริต-รับจ้างเข้าสอบ
วันนี้ (23 ก.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยหลักเกณฑ์เดิมกำหนดไว้ว่า การยื่นคำร้องขอย้ายจะต้องเป็นครูครบ 1 ปี ถึงจะทำเรื่องขอย้ายได้ แต่หลักเกณฑ์ใหม่ คือ กรณีขอย้ายปกติ จะต้องปฏิบัติงานในตำแหน่งครูในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนนับถึงวันที่ยื่นคำขอ โดยเป็นครูผู้ช่วย 2 ปี และ ครู 2 ปี รวม 4 ปี ไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อเต็มเวลา ส่วนการย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง ในวันที่ยื่นคำร้องขอย้ายและต้องมีอายุราชการเหลือไม่น้อยกว่า 2 เดือน นับถึงวันที่ 30 กันยายนของปีที่ครบเกษียณอายุราชการ สำหรับการย้ายกรณีพิเศษและการย้ายกรณีเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ ยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิม
"เหตุผลของการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพราะเห็นว่าหากครูยื่นคำร้องขอย้ายบ่อยผลกระทบก็จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน เพราะต้องเปลี่ยนครู ทำให้การเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สามารถยื่นคำร้องขอย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้เดิม ตามหลักเกณฑ์ ว8/2549 ได้อีกเพียง 1 ครั้ง คือ ในระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคม 2558 และให้ยื่นคำร้องขอย้ายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใหม่นี้ ในเดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไป" รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สพฐ. โดยหลักเกณฑ์ใหม่กำหนดให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน โดยให้รวมกลุ่มกันในพื้นที่เขตตรวจราชการ เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาที่เห็นสมควร เป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบตามหลักสูตรที่กำหนด และต้องสอบทุกภาคในคราวเดียวกัน อีกทั้งการประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย จะกำหนดให้สมัครได้เพียงแห่งเดียวไม่วิ่งสมัครหลายที่เหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. โดยให้ดำเนินการได้เฉพาะสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันแล้วไม่มีผู้สมัครสอบแข่งขัน ไม่มีผู้สอบแข่งขันได้ หรือ มีผู้สอบแข่งขันไม่เพียงพอกับตำแหน่งว่าง ทั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใดไม่ได้เปิดรับสมัครสอบแข่งขันก็ไม่สามารถขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันของเขตอื่นได้ โดยให้หลักเกณฑ์ใหม่มีผลบังคับใช้ทันที
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ สพฐ.กำลังขาดครู จำนวน 8,000 อัตรา คาดว่าเปิดรับสมัครสอบประมาณเดือนกันยายนนี้ ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์สอบครูผู้ช่วยใหม่ โดยเฉพาะการกำหนดให้สมัครได้ที่เดียวนั้น เพื่อป้องกันการทุจริต เพราะที่ผ่านมาเปิดโอกาสให้ผู้สมัครวิ่งสมัครสอบได้หลายที่ จึงทำให้มีผู้รับจ้างสอบเกิดขึ้น และเมื่อประกาศผลสอบก็มีรายชื่อสอบได้ถึงสองที่.“
อ่านต่อที่ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 23 กรกฎาคม 2558