ผลประชุมกระทรวงศึกษาธิการ 7/2558
ศึกษาธิการ - สรุปผลการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวในที่ประชุมถึงข้อห่วงใยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินงานและการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในประเด็นต่างๆ ดังนี้
- การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นแนวคิดของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มีการหารือถึงการกระจายความรับผิดชอบไปสู่สถานศึกษาที่มีความพร้อมเท่านั้น ยังไม่ต้องการการกระจายให้ท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างการกระจายอำนาจไปแล้ว ที่มีทั้งผลดีและไม่ดี
- งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณมากที่สุดกว่า 5 แสนล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นงบบุคลากร เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการมีบุคลากรจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามงบบุคลากรก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในระบบการศึกษา ดังนั้นขอให้ทุกหน่วยงานใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า มีผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน ส่วนใดที่ดำเนินการแล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็ควรปรับลดลง
- การดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาทิ การปรับหลักสูตร การลดชั่วโมงเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ
- การประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานด้านการศึกษาให้ดีขึ้นหลายส่วน แต่สังคมอาจจะยังไม่ได้รับทราบมากนัก ประกอบกับข่าวการศึกษายังไม่เป็นที่น่าสนใจหรือมีคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่สนใจ จึงขอฝากให้องค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับได้ร่วมกันคิดวิธีการนำเสนอข่าวสารให้มีความน่าสนใจและให้มีการเผยแพร่ความก้าวหน้าการดำเนินงานหรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้สังคมได้รับทราบมากที่สุด โดยใช้งบประมาณด้วยความประหยัดคุ้มค่า และดำเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจ้างจัดงาน (Organizer) อย่างเคร่งครัด ตลอดจนจัดให้มีผู้รับผิดชอบติดตามข่าวสารของแต่ละหน่วยงานในทุกช่องทางการสื่อสารทุกวัน หากพบว่ามีข่าวเชิงลบ ขอให้ผู้บริหารหน่วยงานนั้นๆ ได้ชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ ในกรณีข่าวมีความคาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้อง ก็ควรแก้ไขและชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ทั้งนี้ขอให้คณะทำงานประชาสัมพันธ์ช่วยติดตามและชี้แจงในประเด็นต่างๆ ด้วย
- การทุจริตคอร์รัปชัน ขณะนี้รัฐบาลได้ออกกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งมีโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต จึงขอย้ำเตือนทุกหน่วยงานให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ มีความโปร่งใส เพราะขณะนี้ยังพบว่ามีข่าวการทุจริต หากมีหลักฐานหรือจับได้ จะดำเนินการทันที
- การแต่งกายของข้าราชการ ได้เชิญชวนให้ผู้บริหารและข้าราชการแต่งกายด้วยเครื่องแบบข้าราชการอย่างถูกต้องเรียบร้อยทุกวันจันทร์ โดยเฉพาะผู้บริหารควรจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะเครื่องแบบข้าราชการถือเป็นความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการทุกคน
ผลการประชุม "ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี" ได้สรุปเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแต่ละองค์กรหลัก ดังนี้
เฉพาะประเด็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีดังนี้
2. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- การปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
ที่ประชุมรับทราบการเตรียมปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่ง สพฐ. ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 โดยได้ทำการศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรเดิม หลักสูตรต่างประเทศ แนวโน้มการจัดการศึกษาในอนาคต ตลอดจนรับฟังความคิดเห็นใน 4 ภูมิภาค เพื่อที่จะนำมากำหนดทิศทางหลักสูตร และยกร่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่
จากนั้นจะมีการรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม ก่อนที่จะนำหลักสูตรใหม่ไปทดลองนำร่องเป็นเวลาประมาณ 1 ปี มีการประเมินผลตามวัตถุประสงค์ และนำมาปรับปรุงขั้นสุดท้ายก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้จริง คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในช่วงกลางปี 2560
นอกจากนี้ สพฐ.จะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการปฎิรูปหลักสูตรระดับชาติ และคณะอนุกรรมการย่อย เพื่อดำเนินการยกร่างหลักสูตรดังกล่าวแล้ว
- แผนยุทธศาสตร์โครงการจัดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในสถานศึกษา
ที่ประชุมรับทราบการรายงานการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจกรรมของรัฐ พ.ศ.2558-2562 ซึ่ง สพฐ.นำเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยมีแผนยุทธศาสตร์ฯ ใน 4 กิจกรรม ที่ตรงหลักเกณฑ์ ได้แก่
1) กิจกรรมพัฒนาสถานศึกษาของรัฐ 9 โครงการ ซึ่งมีโครงการจัดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานทดแทนในสถานศึกษาของ สพฐ. รวม 20,000 โรงเรียน โดยให้เอกชนร่วมลงทุนวงเงินงบประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของสถานศึกษา ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในปีงบประมาณ 2559 สพฐ.ได้รับงบประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อศึกษาแนวทางการลดค่าไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทนในสถานศึกษานำร่อง 50 แห่งที่มีนักเรียนประจำ อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และมีค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น
2) กิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวม 5 โครงการ
3) กิจกรรมพัฒนาศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ที่ใช้ทรัพย์สินของรัฐ
4) กิจกรรมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุข รวม 2 โครงการ
- โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television : DLTV) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 (พฤศจิกายน 2557 - เมษายน 2558) ดังนี้
1) ภาพความสำเร็จเกี่ยวกับการขยายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การขยายผลการจัดการศึกษาด้วย DLTV ไปสู่โรงเรียนขนาดเล็ก 15,360 แห่งทั่วประเทศ นักเรียนได้มีโอกาสเรียนกับครูต้นทางครบทุกชั้น ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม และทำให้ครูได้มีสื่อที่จะช่วยในการจัดการเรียนการสอน
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ ในปีการศึกษา 2557 ในโรงเรียนขนาดเล็กพบว่าการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพการเรียนรู้ (NT) นักเรียนชั้น ป.3 มีคะแนนเฉลี่ยความสามารถ 3 ด้านสูงกว่าปีการศึกษา 2556 โดยมีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 และในส่วนของการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ป.6 พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงกว่าปีการศึกษา 2556 โดยมีค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.98 และมีคะแนนเฉลี่ยกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ เพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 11.66
3) ผลการติดตามของคณะกรรมการนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานโครงการ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านพฤติกรรมนักเรียน - มีความพร้อมและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กับครูต้นทาง ด้านครู - ครูปลายทางมีความเข้าใจบทเรียน มีการวางแผน กำหนดขั้นตอน และเตรียมความพร้อมก่อนการสอน ตลอดจนสามารถทำเครื่องมือวัดผลได้ ด้านผู้บริหารสถานศึกษา - ตระหนักและดำเนินงานตามคู่มือ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน มีการนิเทศ กำกับและติดตาม ตลอดจนทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนด้วย DLTV ด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา - สนับสนุนการดำเนินงาน นิเทศ กำกับและติดตามอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ พบปัญหาและอุปสรรคหลายประการ อาทิ โรงเรียนบางส่วนไม่ได้รับคู่มือครูพระราชทาน หนังสือเรียนบางส่วนไม่ตรงกับเนื้อหาของครูต้นทาง ปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้า ครูบางส่วนดูแลนักเรียนไม่ทั่วถึง ไม่เข้าใจเนื้อหา นักเรียนกว่าครึ่งเป็นชาติพันธุ์ที่มีปัญหาเรื่องภาษาไทย
4) ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียน และครู ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ DLTV จำนวน 1,097 คน เมื่อวันที่ 2-10 มกราคม 2557 โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พบว่า ส่วนใหญ่เห็นว่าโครงการมีประโยชน์มาก คิดเป็นร้อยละ 81.95 ทำให้เด็กมีความรู้มากขึ้น ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง เกิดการพัฒนา ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 88.61 และร้อยละ 78.85 มีความพึงพอใจต่อโครงการขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ “ครูตู้ ครูพระราชทานสัญญาณจากฟ้า” ในระดับมาก
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์อย่างมาก แต่ DLTV ก็เป็นเพียงเครื่องมือและเป็นสื่อเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือครูปลายทาง ที่จะต้องให้ความใส่ใจสนใจในการอ่านคู่มือ วางแผน/เตรียมจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างดีด้วย จึงจะทำให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินโครงการให้สังคมได้รับทราบในวงกว้างมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ