ถ้าไม่ปรับหลักสูตรเด็กไม่พึงประสงค์เพิ่มแน่
“สมพงษ์ จิตระดับ”หนุนนายกฯ จี้ศธ.ปรับหลักสูตรอย่างด่วน เพราะเป็นต้นตอทำให้การปฎิรูปการศึกษาล้มเหลว
วันนี้( 15 ก.ค.)ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียน เนื้อหาต้องไม่อัดแน่นจนเกินไป ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยอย่างยิ่งกับเรื่องการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยต้องทำให้เร็วที่สุดในรัฐบาลนี้ หรืออย่างน้อยจะต้องเริ่มให้มีการตั้งคณะกรรมการที่จะมาปรับหลักสูตรให้ได้ก่อน เพื่อการปฎิรูปการศึกษาจะได้เดินหน้าจริง ๆ เสียที เพราะหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นต้นตอของปัญหาที่ทำให้การปฎิรูปการศึกษาไม่สำเร็จ เนื่องจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานมีปัญหามาก ทั้งเนื้อหาของหลักสูตรที่ซ้ำซ้อน และล้าสมัย ขณะที่นักเรียนต้องเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้มี 8 กลุ่มสาระ ซึ่งมีมากเกินไป และเวลาเรียนในชั้นเรียนที่มีถึง 1,000-1,200 ชั่วโมงต่อปีก็มากเกินไป ที่สำคัญหลักสูตรที่ใช้อยู่มีความผิดพลาดมาก ที่เน้นให้เด็กแข่งขันกัน และมุ่งเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษา โดยไม่ใส่ใจเรียนสายอาชีวศึกษาทั้งที่เป็นสายอาชีพที่เป็นความต้องการของประเทศ
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานยังทำเด็กไทยไอคิวต่ำ มีนิสัยไม่ดี คุณธรรมลดลงคิดถึงแต่ตัวเอง ทำงานหนักไม่เป็น ขี้เกียจ ไม่รู้จักรากเหง้าความเป็นไทย สมาธิสั้น ติดโลกโซเชียล ก้าวร้าวรุนแรง ไม่ชอบเรียนหนัก คิดติดกรอบ เป็นต้น หากไม่มีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ตนเชื่อว่าจะทำให้มีเด็กไทยไม่พึงประสงค์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้อบปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นหบักสูตรที่มีความทันสมัย เป็นสากล แต่บ่งบอกถึงความเป็นไทยที่ชัดเจน โดยนำค่านิยม 12 ประการ มาบรรจุไว้ นำหลักเศรษฐิกจพอเพียงมาเป็นแนวทางให้เด็กได้ปฎิบัติตาม นอกจากนี้เนื้อหาการเรียนต้องไม่มากเกินไป เรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น โดยให้เด็กทำโครงงาน ลงมือปฎิบัติมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เด็กเปลี่ยนนิสัยมีความสามารถในการตั้งคำถามแทนที่จะเน้นการจำ อย่างที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตามการปรับหลักสูตรไม่ได้ยาก แต่นักวิชาการบางคนในศธ.จะต้องเลิกคิดว่า หลักสูตรที่มีอยู่นั้นดีอยู่แล้ว ครอบคลุมเนื้อหาการเรียนการสอน ทันสมัยและป็นสากล แต่ต้องเปิดใจให้กว้างเพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา“
อ่านต่อที่ : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 ก.ค.2558