พบเด็กไทยมีปัญหาการเรียน 8 ด้าน
รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า คณะครุศาสตร์ฯ จัดโครงการจับตาการศึกษาไทย Education Watch โดยทำการสำรวจนิสัยการเรียนของเด็กไทยตัวอย่าง 3,231 คนทุกภูมิภาคจำนวน 8 องค์ประกอบ ได้แก่
1.นิสัยการเรียนด้านการจัดเวลา
2.สมาธิ
3.การจดบันทึก
4.ความเข้าใจในการอ่าน
5.การเตรียมตัวสอบและการสอบ
6. ความเร็วในการอ่าน
7.ทักษะการเขียน
8.การจัดการความกังวลในการสอบ
ผลการสำรวจพบว่า นักเรียนไทยประมาณร้อยละ 30 ขึ้นไปมีปัญหานิสัยการเรียนทั้ง 8 ด้าน โดยมีปัญหามากที่สุดในด้านความเร็วในการอ่าน ความเข้าใจในการอ่าน การเตรียมตัวสอบ และการจัดการเวลาในการเรียน โดยนิสัยเรื่องความเร็วในการอ่านที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ การจำในสิ่งที่อ่านไปไม่ค่อยได้ การหลงประเด็นขณะอ่านหนังสือ เมื่อแยกตามเพศจะพบว่านักเรียนชายมีปัญหานิสัยในการเรียนสูงกว่านักเรียนหญิง ได้แก่ ด้านการจดบันทึก ทักษะการเขียน และการจัดการเวลาในการเรียน รวมทั้งความเร็วในการอ่าน ความเข้าใจในการอ่าน และสมาธิในการเรียน
รศ.ดร.บัญชากล่าวต่อว่า นักเรียนมัธยมศึกษามีปัญหานิสัยในการเรียนสูงกว่านักเรียนประถมศึกษามาก ในด้านความเร็วในการอ่านที่ไม่ได้อย่างที่ต้องการ, การใช้เวลากับเรื่องทางสังคมมากกว่าการเรียน, การเหม่อลอยหรือง่วงหลับในห้องเรียน และการจัดการความกังวลใจในการสอบ ด้านฐานะทางเศรษฐกิจพบว่า นักเรียนจากครอบครัวที่มีเศรษฐานะค่อนข้างสูงมีปัญหานิสัยในการเรียนสูงกว่า นักเรียนจากครอบครัวที่มีเศรษฐกิจฐานะค่อนข้างต่ำ ในด้านการจัดการความกังวลในการสอบ และสมาธิในการเรียน นักเรียนในภาคกลางและกรุงเทพฯ มีปัญหานิสัยในการเรียนสูงกว่านักเรียนจากภูมิภาคอื่นอย่างมาก ด้านการจัดการเวลาในการเรียน เนื่องจากใช้เวลาไปกับสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 11 ก.ค.2558