ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามนำทีมคณาจารย์เข้าพบเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา ชี้แจงปัญหาการบริหารภายใน พร้อมขอสกอ.ใช้อำนาจร่วมแก้ปัญหา เผยไม่มั่นใจในกระบวนตรวจสอบของกรรมการชุดเดิม ด้านเลขาธิการสกอ.รับลูกจะปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่
หลังจากที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) มีการประชุมสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครั้งที่ 6/2558 ไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 ณ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร ในวันดังกล่าวสภาคณาจารย์ ตัวแทนบุคลากร และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ออกแถลงการณ์กรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งที่ 19/2558 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้นายศุภชัย สมัปปิโต ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2558 โดยมีข้อเรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารงานที่ผ่านมาด้วย
ล่าสุด 1 ก.ค. 2558 กลุ่มคณาจารย์และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาแห่งชาติ(สกอ.)เพื่อยื่นหนังสือถึงเลขาธิการสกอ.เรื่องขอให้แก้ไขปัญหาในมหาวิทยาลัยมหาสารคามให้เป็นตามเจตนารมณ์ของคำสั่งหัวหน้า คสช.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิรัติ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ถึงแม้จะมีคำสั่งหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 ให้ นายศุภชัย สมัปปิโต พ้นจากตำแหน่งรักษาการอธิการบดีมมส.ไปแล้วนั้น แต่ด้วยความกังวลของประชาคมมมส.กังวลในเรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกลุ่มผู้บริหารที่ยังมีความใกล้ชิดกับนายศุภชัย จึงเกรงว่าการตรวจสอบหรือการดำเนินการเรื่องต่างๆอาจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น ดังนั้นความกังวลในวันนี้จึงทำให้ต้องเดินหน้าเรียกร้องกระบวนการการทำงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้น หากการบริหารมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถานที่ที่ผลิตคนออกไปเพื่อรับใช้สังคมมีการทำงานที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ในฐานะที่เป็นอาจารย์รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
"และหลังจากมีคำสั่งตามม.44 ของคสช. แม้ประชาคมมมส.จะออกแถลงการณ์ให้สภามหาวิทยาลัยมมส.ลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว ก็มีแต่ความเพิกเฉย เพื่อคลายความกังวลใจต่อความไม่ชัดเจนในการบริหารเราจึงต้องการทีมบริหารชุดใหม่ พร้อมกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ด้วยเช่นกัน"
ด้านรศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) กล่าวว่า การจะให้เลขาธิการสกอ.ไปเป็นรักษาการอธิการบดีแทนชั่วคราวนั้นไม่สามารถกระทำได้ และหากมีข้อกังวลในการตีความตามคำสั่งม.44 หลังจากรักษาการอธิการบดีพ้นจากตำแหน่งแล้ว รองอธิการบดีมีสิทธิขึ้นมาเป็นรักษาการณ์แทนหรือไม่นั้นจะต้องย้อนกลับไปด้วย พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือหากเกิดเป็นข้อถกเถียงกันในสภามหาวิทยาลัยก็จำเป็นที่จะต้องทำหนังสือต้นเรื่องส่งมาทางสกอ.เพื่อที่จะได้ส่งให้กฤษฎีกาตีความให้
"พอทราบคร่าวๆถึงปัญหาการบริหารภายในของมมส. ซึ่งเรื่องที่ส่งมาที่สกอ.หลายมหาวิทยาลัยก็มีปัญหาอยู่หลายแห่ง ฉะนั้นทางสกอ.ก็พยายามเร่งจัดการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็จัดการภายใต้อำนาจที่เรามี ดังนั้นข้อร้องเรียนจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง"
ทั้งนี้รายละเอียดข้อเรียกร้องของคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีดังนี้
1. โปรดพิจารณาใช้อำนาจ คสช. ที่ให้ไว้ตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ในการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม กอปรด้วยคุณธรรมและจริยธรรม เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อทำหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อทำการแก้ไขข้อบังคับว่าด้วยการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัย การสรรหาอธิการบดี และข้อบังคับอื่นๆ ที่จำเป็น โดยให้ข้อบังคับเหล่านั้นเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล พ้นจากหลักอุปถัมภ์ที่แทรกแซงชี้นำได้โดยบุคคลผู้เดียวดังที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และดำเนินการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวนี้ ทำหน้าที่ในการสรรหาอธิการบดี ด้วย
2. ให้สนช.โปรดพิจารณาแต่งตั้งกรรมาธิการเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลในสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม
3. โปรดพิจารณาใช้อำนาจ คสช.ในการเร่งรัดการพิจารณาข้อร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. ให้แต่งตั้งเลขาธิการ สกอ.หรือผู้ที่เลขาธิการเสนอ ทำหน้าที่ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในระหว่างที่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดี มาตรการเช่นนี้ได้เคยมีการใช้มาแล้วในอดีต เช่น เมื่อไม่นานมาได้มีการแต่งตั้งให้เลขา สกอ. รักษาการณ์ในตำแหน่งอธิการบดีสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เนื่องจากเกิดสถานการณ์สุญญากาศคล้ายกับกรณีของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่านอกจากยื่นหนังสือที่สกอ.แล้ว คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามยังเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สนช.และยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบรัฐบาล และจะส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย
ที่มา สำนักข่าวอิศรา วันที่ 1 กรกฎาคม 2558