สมศ.ยอมรับสภาพลดบทบาท
“ชาญณรงค์” ชี้สถานศึกษาด้อยคุณภาพ ต้องปรับที่ตัวสถานศึกษาไม่ใช่ปรับที่ระบบประเมิน หรือลดบทบาท สมศ. ยันขณะนี้ยังต้องทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 2542 หากกฎหมายเปลี่ยนก็พร้อมปฏิบัติตาม
วันนี้ (25 มิ.ย.) ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) สนับสนุนให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ปรับบทบาท สมศ. จากการประเมินสถานศึกษาว่าตกหรือได้ เป็นให้คำแนะนำแก่สถานศึกษาที่เข้ารับการประเมินว่า ขณะนี้ สมศ.ทำหน้าที่ประเมินตามที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 กำหนด แต่หากมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยปรับบทบาท สมศ.ลง ทาง สมศ.ก็พร้อมปฏิบัติตาม ทั้งนี้ตนมองว่าการที่สถานศึกษาต่างๆ ด้อยคุณภาพ ก็ต้องมีการพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ใช่ปรับระบบประเมิน และลดบทบาทของ สมศ. อีกทั้งที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่สถานศึกษาต่างๆ ควบคู่กับผลการประเมินอยู่แล้วด้วยขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำมาใช้หรือไม่
“เวลานี้คงต้องดูว่าสถานศึกษายอมรับผลประเมินได้ หรือไม่ได้ และสถานศึกษานำคำแนะนำไปพิจารณา และปรับปรุงตามคำเสนอแนะหรือไม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานศึกษาเอง หากนำไปปฏิบัติตามก็เชื่อว่าจะทำให้สถานศึกษามีคุณภาพมากขึ้น และผ่านการประเมินของ สมศ.” ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่ ทปอ.เป็นห่วงว่าในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ ซึ่งเป็นรูปแบบออนไลน์ ทาง สมศ.จะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลที่สถานศึกษาส่งมาจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องนั้น ขณะนี้ สมศ. กำลังทำงานร่วมกับคณะกรรมการที่ทาง ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้น ดังนั้นหาก ทปอ. มีข้อเสนอแนะในเรื่องใดก็ให้ส่งมาได้ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ต่อไป สำหรับข้อเสนอที่ให้ สมศ. หารือร่วมกับ ทปอ. เพื่อตรวจสอบข้อมูลของสถานศึกษานั้น ทาง สมศ.ยินดีหารือ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และน่าเชื่อถือที่สุด.
อ่านต่อที่ : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 25 มิถุนายน 2558