ณรงค์สั่งทบทวนการลงทุนของ สกสค.ใหม่ทั้งหมด ล่าสุดให้ยุบโครงการก่อสร้างหอพักที่เชียงใหม่ และคืนที่ดินให้ราชพัสดุ เผยส่งหนังสือทวงหนี้ บ.บิลเลี่ยนฯ 2 ครั้งแล้ว หากยังไม่คืนต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมตั้ง คกก.กองทุน ช.พ.ค.-ช.พ.ส.ใหม่ รวมทั้งสืบหาข้อเท็จจริงกรณีหนังสือร้านค้าองค์การค้าฯ หายกว่า 5 แสนเล่ม
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการองค์การค้าของ สกสค. เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ในที่ประชุมนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค. ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการต่างๆ ของ สกสค.ที่ผ่านมา ว่า นอกจาก สกสค.ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท บิลเลี่ยนฯ แล้ว สกสค.ยังได้เข้าไปซื้อหุ้นร่วมลงทุนโครงการหนองคายน่าอยู่ จังหวัดหนองคาย ซึ่งที่ประชุมก็มอบหมายให้ สกสค.ลงไปตรวจสอบว่าโครงการดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เพราะโครงการนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการเท่านั้น ยังไม่มีตัวอาคาร หากไม่คุ้มค่ากับการลงทุนก็คงต้องมีการทบทวน
ส่วนการก่อสร้างหอพักที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุที่ สกสค.ขอเช่าปีละประมาณ 1.4 ล้านบาท ซึ่งเดิมเขตพื้นที่การศึกษาใช้อยู่ แต่ สกสค.ได้จ่ายเงินให้เขตพื้นที่ฯ ไปสร้างอาคารใหม่ เพื่อจะใช้พื้นที่สร้างหอพัก แต่เมื่อเกิดปัญหาเรื่องการดำเนินการก่อสร้างนี้ขึ้น ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ สกสค.ไปหารือกับกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เพื่อจะขอคืนพื้นที่ให้กับเขตพื้นที่ฯ มาใช้เหมือนเดิม เพราะตอนนี้คงต้องยุติการก่อสร้างหอพักไปก่อน สำหรับการดำเนินการกับบริษัท บิลเลี่ยนฯ นั้น สกสค.ก็ดำเนินการทวงหนี้ไปแล้ว 2 ครั้ง หากบริษัท บิลเลี่ยนฯ ยังไม่คืนเงินก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ในอนาคตก็ต้องมาพิจารณาเรื่อง สกสค.จังหวัดด้วยว่ามีความจำเป็นหรือไม่ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.-ช.พ.ส.ชุดใหม่ โดยมีนายพินิจศักดิ์เป็นประธานทั้ง 2 ชุด
พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวต่อว่า และในการประชุมคณะกรรมการองค์การค้าของ สกสค. ที่ประชุมได้หารือถึงข้อมูลหนังสือเรียนขององค์การค้าของ สกสค. ตั้งแต่ปี 2556-2557 จำนวน 1,178,764 เล่ม โดยหนังสือดังกล่าวได้เช่าเครื่องพิมพ์ของสำนักพิมพ์ ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์ จำกัด มหาชน ในการจัดพิมพ์ โดยพบว่าจำนวนหนังสือที่ส่งเข้าคลังสินค้ากับจำนวนที่สั่งพิมพ์ไม่ตรงกัน และหายไปกว่าจำนวน 5 แสนเล่ม ซึ่งนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าหนังสือหายไปจริงหรือไม่ และต้องรอผลตรวจสอบใหม่อีก 2 สัปดาห์
ส่วนจะพิจารณายกเลิกสัญญาจ้างนายสมมาตร มีศิลป์ ผอ.องค์การค้าฯ หรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อน ซึ่งหากระบุว่าหนังสือหายจริงก็ต้องยกเลิกสัญญาจ้างแน่นอน เพราะถือว่ามีความข้อบกพร่องในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการพูดคุยถึงกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่ลงไปตรวจสอบการทำงานขององค์การค้าฯ แล้วมีความคิดเห็นถึงความจำเป็นที่จะมีองค์การค้าฯ ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ตนจึงได้สั่งให้องค์การค้าฯ ไปปรับโครงสร้างขององค์กรและการดำเนินงานดูก่อน แต่ในอนาคตไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร.
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 25 มิถุนายน 2558