สพฐ.เตรียมรับมือโรคเมอร์สด้วย แจ้งแนวทางปฏิบัติให้ครูสอนนักเรียน เน้น กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สกีดทั้งเมอร์-ไข้หวัดใหญ่ ด้าน คร.เร่งทำสื่อแอนิเมชันให้ความรู้ ปชช.
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวมาตรการป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ในสถานศึกษา โดย นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคเมอร์สเพียงรายเดียว และยังไม่มีการระบาดในชุมชน ซึ่ง คร.ได้พยายามให้ความรู้ในการป้องกันแก่ประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันและไม่ตื่นตระหนก ศซึ่ง รมว.สาธารณสุข ได้สั่งการให้ คร.เร่งจัดทำสื่อเพื่อให้ความรู้และแนะนำการป้องกันโรคเมอร์สอย่างง่ายด้วย โดยกำลังเร่งจัดทำสื่อแอนิเมชันเพื่อเผยแพร่ ทั้งนี้ ถ้านักเรียนหรือคนไทยทุกคนตระหนักและช่วยกันป้องกันก็จะสามารถป้องกันควบคุมโรคนี้ได้ เพราะถ้ามีการแพร่ระบาดก็ถือว่ากระทบต่อความมั่นคงของชาติด้วย
“ขอให้เน้นกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ซึ่งสำคัญมากเพราะถ้านักเรียนมีสุขนิสัยที่ดี นอกจากป้องกันโรคเมอร์สแล้ว ในช่วงหน้าฝนจะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ด้วย และถ้าใครเป็นไข้ไอ จาม อยากให้รณรงค์ใส่หน้ากากป้องกันเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น ส่วนผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและกลับมา ภายใน 14 วันตามระยะฟักตัวของโรค ถ้ามีไข้ ไอ จาม ให้คาดหน้ากากอนามัย และไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจพิสูจน์ว่าเป็นโรคนี้หรือไม่" อธิบดี คร. กล่าวและว่า โรคเมอร์เกิดขึ้นในแถบตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ ติดต่อโดยการไอ หรือจามใส่กัน มีลักษณะอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กนักเรียนหรือผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว มีโรคเกี่ยวกับปอดเรื้อรัง หอบหืด โรคที่มีภูมิต้านทานไม่ดี ขอให้หลีกเลี่ยงไม่เดินทางไปในประเทศที่มีการระบาด หรือหากมีความจำเป็นต้องไป ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานพยาบาล ฟาร์มสัตว์ โดยเฉพาะอูฐที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อของโรค รวมทั้งไม่ไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นหวัด ไอ จาม เป็นต้น
ด้าน นายกมล กล่าวว่า วันที่ 23 มิ.ย. สพฐ.จะแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)และโรงเรียน ทั่วประเทศ ถึงแนวปฏิบัติต่างๆ แก่ครูเพื่อให้ถ่ายทอดสู่เด็ก ทั้งกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ การป้องกันตัวเอง หากพบว่ามีนักเรียนที่มีอาการผิดปกติให้รีบกักตัวออกมา และแจ้งสาธารณสุขในพื้นที่ทันที หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นและจำเป็นจะเพิ่มมาตรการ เช่น ปิดสถานศึกษาเพื่อทำความสะอาดหรือไม่นั้น ต้องรอฟังการแจ้งเตือนจากทาง สธ. ก่อน ทั้งนี้ สพฐ.มีระบบการแจ้งข่าวสารผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งจะทำให้ข่าวสารข้อมูลไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเขตพื้นที่ ฯและผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศได้ในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติจะนำขึ้นเว็บไซต์ของสพฐ. เพื่อให้ครูได้เข้ามาอ่าน รวมถึงจะสั่งการให้โรงเรียนจัดทำแผ่นพับ เพื่อให้นักเรียนได้อ่านหรือนำกลับไปให้ผู้ปกครองได้ศึกษา เพื่อป้องกันด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 22 มิถุนายน 2558