สพฐ.เตรียมแจกคูปองพัฒนาครู 4 กลุ่มสาระฯ กลุ่มเป้าหมาย 7 พันคนใน 166 เขตฯ เริ่ม ก.ค.นี้ ส่งพี่เลี้ยงแนะนำครูถึงโรงเรียน ครูไม่ต้องทิ้งห้องเรียน ตั้งเป้าครูพลิกโฉม ร.ร.และเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงภายในปีการศึกษา 58 นี้
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการนำร่องคูปองพัฒนาครู ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน ว่า ต้องยอมรับความจริงว่าการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมานั้น ยังไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ห้องเรียน และนักเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งครั้งนี้ต้องการมุ่งเน้นให้เกิดผลที่ตัวนักเรียน ดังนั้น ผู้บริหาร ครู และบุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องรวมพลังกันพลิกโฉมโรงเรียน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ และทักษะในศตวรรษที่ 21 อย่างไรก็ตาม การสร้างทักษะกระบวนการเรียนรู้ให้ห้องเรียน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ลงสู่นักเรียนก็ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ครูต้องช่วยกันคิด โดยเฉพาะขณะนี้เด็กเติบโตมากับความทันสมัยของเทคโนโลยี ซึ่งครูอาจต้องปรับปรุงและพัฒนาคิดค้นเทคนิคการสอนที่มากกว่าเดิม ซึ่งตนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นภายในปีการศึกษา 2558
สำหรับการพัฒนาครู ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำโครงการคูปองพัฒนาครูและจะเริ่มนำร่องในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) 166 แห่ง มีครูกลุ่มเป้าหมาย 7,000 คน และพัฒนาใน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ โดย สพฐ.จะจัดสรรงบประมาณคนละ 3,500 บาท อย่างไรก็ดี คาดว่าจะเริ่มการอบรมครูเดือนกรกฏาคมนี้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การอบรมในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 53 แห่งและสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเป็นผู้ออกแบบหลักสูตรการโดยเป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของครูที่จะนำมาใช้ในการพลิกโฉมโรงเรียนให้เกิดขึ้นภายใน 1 ปี จากนี้ไปสถาบันอุดมศึกษาต้องเร่งจัดทำหลักสูตรแต่เชื่อว่าทำได้เร็ว เพราะมีองค์ความรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการอบรมดังกล่าวจะไม่ใช่การดึงครูออกจากห้องเรียนเช่นที่ผ่านมา แต่จะเป็นรูปแบบใหม่มีทีมพี่เลี้ยงมาคอยแนะนำในระหว่างการปฏิบัติงานจริงจึงทำให้ครูไม่ต้องทิ้งห้องเรียน
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 18 มิถุนายน 2558