สกสค.ส่งหนังสือทวงเงินคืนจาก บ.บิลเลียนฯ แล้ว จำนวน 2,500 ล.บาทพร้อมดอกเบี้ย 7% ส่วนการเลิกจ้าง “สมศักดิ์ ตาไชย” มีผลทันทีตั้งแต่ 29 พ.ค.ขณะที่การตรวจสอบทุจริตเดินหน้าไปตามกระบวนการ
วันนี้ (3 มิ.ย.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สัญญาการเลิกจ้างนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลกรทางการศึกษา (สกสค.) มีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเลิกจ้างเลขาธิการสกสค.แล้ว จะส่งผลให้รองเลขาธิการสกสค. พ้นจากตำแหน่งไปด้วย ซึ่งทราบว่านายพินิจศักดิ์ สุวรรณ รังค์ ผู้ตรวจราชการศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค.ลงนามแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมเข้ามา รักษาการในตำแหน่งรองเลขาธิการสกสค.แล้วจำนวน 3 ราย เพื่อให้การทำงานต่าง ๆ สามารถเดินหน้าไปได้ ไม่ติดขัด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการกับนายสมศักดิ์นั้น ที่ผ่านมาคณะกรรมการสกสค.ได้เชิญนายสมศักดิ์ มาให้ข้อมูลด้วยวาจาแล้ว แต่ นายสมศักดิ์ ไม่มา ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบในข้อกฎหมายต้องดำเนินต่อไป ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบ ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรายปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำนักงานงานตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) โดยจากนี้ทุกอย่างก็คงต้องว่าไปตามกฎหมาย
ด้าน นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าเมื่อมีการยกเลิกสัญญาจ้างนายสมศักดิ์แล้ว รองเลขาฯสกสค.ทั้ง 4 คน ก็ต้องหลุดจากตำแหน่งตามเลขาฯสกสค.ตามระเบียบ ซึ่งจะให้สรรหารองเลขาธิการ สกสค.ขึ้นมาใหม่ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นตนจึงได้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักของ สกสค.มีความรู้ความสามารถและมี ประสบการณ์ต่องานโดยตรงและมีผลกระทบน้อยที่สุดมารักษาการรองเลขาธิการ สกสค.ก่อน และที่สำคัญเป็นการประหยัดเงินด้วย ส่วนการตรวจสอบเรื่องการทุจริตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนความคืบหน้าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ได้มอบหมายให้ตนทำหนังสือถึงบริษัท บิลเลี่ยนฯ เพื่อติดตามทวงเงินคืนทั้งหมดนั้น ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือถึงบริษัท บิลเลี่ยนฯ แล้ว โดยบริษัทบิลเลี่ยนฯจะต้องคืนเงิน จำนวน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 มิถุนายน 2558