รมว.ศธ.แจง "สมศักดิ์" เจอทั้งดีเอสไอ, ปปง., ป.ป.ช., สตง. และ คตร. หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมาย พ้นหน้าที่ทันทีหลังเซ็นเลิกจ้าง "พินิจศักดิ์" เผยส่งหนังสือทวงเงินจากบริษัท บิลเลี่ยนฯ แล้ว
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ตนได้ลงนามในสัญญาเลิกจ้างนายสมศักดิ์ ตาไชย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า การเลิกจ้างดังกล่าวมีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเลิกจ้างเลขาฯ สกสค.แล้ว จะส่งผลให้รองเลขาฯ สกสค.พ้นจากตำแหน่งไปด้วย ซึ่งทราบว่านายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค. ลงนามแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมเข้ามารักษาการในตำแหน่งรองเลขาฯ สกสค.แล้วจำนวน 3 ราย เพื่อให้การทำงานต่างๆ สามารถเดินหน้าไปได้ ไม่ติดขัด
รมว.ศธ.กล่าวว่า ส่วนการดำเนินการกับนายสมศักดิ์นั้น ที่ผ่านมาคณะกรรมการ สกสค.ได้เชิญนายสมศักดิ์มาให้ข้อมูลด้วยวาจาแล้ว แต่นายสมศักดิ์ไม่มา ดังนั้นกระบวนการตรวจสอบในข้อกฎหมายต้องดำเนินต่อไป ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ทางด้านกฎหมายสามารถเข้าตรวจสอบได้มากกว่า ศธ. ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)
ด้านนายพินิจศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักของ สกสค.ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ต่องานโดยตรง และมีผลกระทบน้อยที่สุดมารักษาการรองเลขาฯ สกสค.ก่อน และที่สำคัญเป็นการประหยัดเงินด้วย ส่วนการตรวจสอบเรื่องการทุจริตก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบตามที่ รมว.ศธ.กล่าวไปข้างต้น ทั้งนี้ ในส่วนของ สกสค.ก็มีหน้าที่ติดตามทวงเงินคืนจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งขณะนี้ตนได้ทำหนังสือทวงเงินจากบริษัท บิลเลี่ยนฯ แล้ว โดยบริษัท บิลเลี่ยนฯ จะต้องคืนเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ไทยโพสต์ วันที่ 4 มิถุนายน 2558