ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สารจากโฆษก สพฐ. ฉบับที่ 9/2558


ข่าวการศึกษา 3 มิ.ย. 2558 เวลา 08:19 น. เปิดอ่าน : 6,427 ครั้ง
Advertisement

สารจากโฆษก สพฐ. ฉบับที่ 9/2558

Advertisement

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่สนใจ ข่าวคราวความเคลื่อนไหวทางการศึกษาทุกท่าน หวังว่าท่านผู้อ่านคงได้ไปทำบุญไหว้พระ เวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ขอให้กุศลผลบุญส่งผลให้พวกเราคิดดี พูดดี ทำดีกันทุกคนครับ และเพื่อให้เรื่องราวที่ผมต้องการสื่อสารท่านไม่กระจัดกระจายมากนัก ช่วงนี้ผมจะพยายามเสนอในกรอบ ๓ ด้าน คือ ด้านโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา (Access) ด้านคุณภาพการศึกษา (Quality) และด้านประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ (Efficiency) เริ่มเลยนะครับ

๑. ด้านโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าขณะนี้เด็กในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐานคงมีสถานที่เรียนกันทุกคนแล้วนะครับ หากบุตรหลานของท่านใดที่ยังไม่มีที่เรียน ขอได้โปรดแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่อยู่ในภูมิลำเนาของท่านโดยด่วนครับ ผมรับรองว่าบุตรหลานของทุกท่านมีที่เรียนอย่างแน่นอน ในปีผ่านๆมามีหลายโรงเรียนที่ปฏิเสธการรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเด็กไทยหรือเด็กต่างชาติที่มาอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ขอเรียนให้ทราบว่า เราต้องดูแลเด็กทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยอย่างเท่าเทียมกัน ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่ใช่เด็กไทยก็ตามและเมื่อเข้าเรียนแล้วก็จะได้รับสิทธิ์เหมือนเด็กไทยทุกประการ หากไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ก็จะใช้วิธีการกำหนดรหัสพิเศษแทนเลขประจำตัว ๑๓ หลัก ในระหว่างเด็กดังกล่าวเรียนอยู่ในโรงเรียนก่อนจะจบหลักสูตร ทางโรงเรียนก็ต้องพยายามหาร่องรอยหลักฐานของเด็กนั้นๆ ถ้าไม่มีจริงๆก็ใช้พยานบุคคลมารับรองว่าเด็กเหล่านั้นเป็นใครมาจากไหน และเมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้ว แต่โรงเรียนก็ยังได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์ โรงเรียนจะทำได้ก็เพียงรับรองความรู้ได้เท่านั้น หลายท่านคงเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงของประเทศ คงไม่ต้องห่วงครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ปี ๒๕๔๘ ตราบใดที่มติคณะรัฐมนตรียังไม่เปลี่ยนแปลง ก็ให้ดำเนินการตามที่ผมกล่าวมานะครับ

๒. ด้านคุณภาพการศึกษา

ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษากำลังทบทวนผลการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๕๑ เพื่อนำไปสู่การปรับหลักสูตรดังกล่าว แน่นอนครับ เมื่อหลักสูตรเปลี่ยนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล สื่อและแหล่งเรียนรู้ก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่เปลี่ยนไป จากผลการประเมินการใช้หลักสูตรเท่าที่ทราบมา พบว่า ตัวหลักสูตรไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก มาตรฐานการเรียนรู้ก็ปรับเปลี่ยนจากการเน้นเนื้อหาเป็นการเน้นพฤติกรรมของผู้เรียนแทน แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากก็คือ การนำหลักสูตรไปใช้ นั่นก็คือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งยังไม่ค่อยสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ไม่พยายามสรรหาและใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้เท่าที่ควร การวัดและประเมินผลเน้นเอกสารมากกว่าการประเมินตามสภาพจริงของผู้เรียน ดังนั้น ถึงแม้ว่าหลักสูตรยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนในขณะนี้ การยกระดับคุณภาพของผู้เรียนก็สามารถทำได้ หากมีการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ตลอดจนวัดและประเมินผู้เรียนตามสภาพจริง และเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่โรงเรียนและนักเรียนมากเกินไป ก็กำหนดให้ สถาบันทดสอบแห่งชาติ (สทศ.) จัดสอบ O-NET เพียง ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก ส่วนอีก ๓ กลุ่มสาระให้โรงเรียนไปดำเนินการเอง รวมทั้งยกเลิกการทดสอบ LAS (Local Assessment System) ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๘ นี้เป็นต้นไป

๓. ด้านประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

นิยามคำว่า “ ประสิทธิภาพ ” ของผม ก็คือ “ ประโยชน์สูง ประหยัดสุด ” กล่าวคือ บริหารจัดการได้ผลตรงตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยใช้ปัจจัยน้อยที่สุด ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำลังดำเนินการเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานในการจัดการศึกษาของโรงเรียน ๓ เรื่อง คือ

เรื่องแรก คือ การขอปรับงบอุดหนุนรายหัวนักเรียน ๕ รายการ คือ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าเสื้อผ้านักเรียน อุปกรณ์การเรียน ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ซึ่งใช้อัตราเดิมมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้ว โดยสรุปแล้วจะขอปรับขึ้นประมาณร้อยละ ๑๐ ของงบอุดหนุนรายหัวเดิม และขอเพิ่มค่าสาธารณูปโภคอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กพักนอนในโรงเรียนปกติให้เท่ากับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ขยายงบอุดหนุนเด็กยากจนจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการศีกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะทำรายละเอียดเพิ่มเติมและขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะรัฐมนตรี ถ้าผ่านความเห็นชอบก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการขอตั้งงบประมาณจากสำนักงบประมาณ ยังตอบไม่ได้ครับว่าจะได้เมื่อไร เพราะขั้นตอนต่อจากนี้เหนือการควบคุมของเรา ผมจะรายงานให้ทุกท่านทราบความก้าวหน้าเป็นระยะๆครับ

เรื่องที่สอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้เสนอโครงการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ มูลค่า ๖,๐๐๐ ล้านบาท ในยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)เป็นผู้เสนอขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในภาพรวมของทุกกระทรวงทั้งประเทศ หน่วยงานของเราจะได้อะไรจากงานนี้ โครงการนี้มุ่งหวังให้โรงเรียนของเราจำนวนหนึ่งได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยจะมีเอกชนมาลงทุนให้เราก่อน สำหรับการดูแลรักษาอุปกรณ์ รวมทั้งการผ่อนใช้งบลงทุนดังกล่าว คงต้องคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ผมเคยนำเสนอมาครั้งหนึ่งแล้วว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องการให้เอกชนมาลงทุนให้ก่อนในหลายๆ เรื่อง เช่น อาคารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อาคารเรียน อาคารประกอบ สนามกีฬา รถยนต์ ระบบไฟฟ้า ประปา คอมพิวเตอร์ เป็นต้น จะดำเนินการในลักษณะ “ซื้อก่อน จ้างก่อน ผ่อนทีหลัง” แต่รอบแรกนี้ข้อมูลจากการสำรวจความต้องการยังไม่ค่อยสมบูรณ์ จึงเสนอขอแผงโซลาร์เซลล์ก่อนเพียงรายการเดียวก่อน

เรื่องที่สาม ปัจจุบันโรงเรียนของเรามีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าเดิม เนื่องจากโรงเรียนจำเป็นต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพื่อการเรียนการสอน ซึ่งในแต่ละปีโรงเรียนต้องนำงบอุดหนุนมาจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ค่าไฟฟ้าลดลง เราก็พยายามรณรงค์ให้ประหยัดการใช้ไฟฟ้า และพยายามใช้แผงโซลาร์เซลล์ อีกหนึ่งความพยายามที่จะช่วยลดรายจ่ายค่าไฟฟ้าให้กับโรงเรียนก็คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะขอเจรจากับการไฟฟ้าเพื่อขอใช้อัตราค่าไฟฟ้าในอัตราพิเศษ ราคาต่อหน่วยถูกกว่าปัจจุบัน เป็นอัตราเพื่อการศึกษา แล้วจะรายงานผลความก้าวหน้าในการเจรจาให้ทราบนะครับ

สารฉบับนี้ คงนำเสนอเพียงเท่านี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในฉบับหน้าครับ

 

ดร.รังสรรค์ มณีเล็ก
รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


สารจากโฆษก สพฐ. ฉบับที่ 9/2558สารจากโฆษกสพฐ.ฉบับที่92558

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ด่วนที่สุด! แนวทางการบริหารจัดการงบประมาณค่าอาหารกลางวัน นักเรียนชั้น ม.1-3 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา

ด่วนที่สุด! แนวทางการบริหารจัดการงบประมาณค่าอาหารกลางวัน นักเรียนชั้น ม.1-3 โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา

เปิดอ่าน 5,374 ☕ 2 ธ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
พร้อมแล้ว "คุรุสภา" เปิดธีมงานวันครู ครั้งที่ 69 ปี 68 ยึดนโยบายเรียนดี มีความสุข
พร้อมแล้ว "คุรุสภา" เปิดธีมงานวันครู ครั้งที่ 69 ปี 68 ยึดนโยบายเรียนดี มีความสุข
เปิดอ่าน 571 ☕ 24 ธ.ค. 2567

ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
เปิดอ่าน 793 ☕ 22 ธ.ค. 2567

สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 895 ☕ 22 ธ.ค. 2567

เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เปิดอ่าน 793 ☕ 20 ธ.ค. 2567

ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 1,133 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 2,403 ☕ 19 ธ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
แนวทางการจัดประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ตอนที่ 1)
เปิดอ่าน 41,997 ครั้ง

แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
แฟลช และเทคนิคการถ่ายภาพด้วยแสงแฟลช
เปิดอ่าน 30,599 ครั้ง

ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
เปิดอ่าน 63,652 ครั้ง

โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
เปิดอ่าน 8,475 ครั้ง

ความรู้เรื่องวัฒนธรรม
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม
เปิดอ่าน 15,282 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ