แถลงการณ์ภารกิจติดตามความมั่นคงในอาชีพ
สมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทย
วันที่ 19 พฤษภาคม 2558
เรียน พี่น้องครูธุรการ ที่เคารพรักทุกท่าน
สวัสดีปีการศึกษา 2558 และ พี่น้องครูธุรการทุกท่านนะครับ ต้องขออภัยทุกท่านที่ออกแถลงการณ์ช้าไปหน่อยเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมทุกท่านคงพอได้พักผ่อนบ้างนะ ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับพี่น้องของเราที่สอบบรรจุครูผู้ช่วยที่ผ่านมาได้หลายท่าน ซึ่งต้องยอมรับนะครับว่าต่อไปนี้การที่จะสอบเข้างานราชการยิ่งจะทวีคูณความยากของแนวข้อสอบเข้าไปเรื่อยๆโดยเฉพาะการเพิ่มวิชาภาษาอังกฤษและวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูงเข้าไปด้วยก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ปัจุจบันบัณฑิตตกงานมีเพดานที่สูงมาก หน่วยงานราชการงดการเปิดขยายกรอบอัตรากำลังใหม่ โดยเฉพาะลูกจ้างต่างๆ ทุกหน่วยงานต่างประคองตัวเองให้อยู่รอด ก็เข้าเรื่องหน่อยนะครับ
เรื่องที่ 1 เรื่องการต่อสัญญาจ้างและเงินเดือน 6 เดือนหลัง
การแจ้งต่อสัญญาจ้างธุรการหลังหมดสัญญามีนาคม 2558 ก็จะมีปัญหาอยู่หลายเขตพอสมควรซึ่งจริงๆแล้วทางสำนักงานเขตดังกล่าวมิได้พิจารณาถึงประเด็นการจ้างว่าเป็นการจ้างตามปีงบประมาณหรือไม่ นั้นหมายความว่าโครงการคืนครูให้กับนักเรียนใช้งบประมาณประจำปี 2558 หลายเขตทำสัญญาจ้างครูธุรการเป็นรายปีโดยอ้างงบประมาณรายจ่ายประจำปี และได้สำรองเงินเดือนเพื่อให้น้องๆธุรการไม่ต้องตกเบิก ก็ต้องขอขอบพระคุณท่าน ผอ เขต ด้วยนะครับ แต่บางเขตสมาพันธ์ก็ได้ประสานเข้าไปเพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาให้หน่อยอย่างน้อยก็ให้ต่อสัญญาให้พี่น้องธุรการเราบ้าง ก็ชี้แจงอย่างเดียวว่าถ้าเงินไม่มาก็จะไม่ต่อทั้งๆที่มีหนังสือจาก สพฐ. ซักซ้อมหรือจัดสรรต่างๆมาก็ยังยืนยันเจตนารมณ์ไม่ต่อสัญญาก็ทำให้เจ้าหน้าที่เขตบางเขต ไม่พอใจบาง ก็ต้องขออภัยนะครับก็เป็นหน้าที่สมาพันธ์จะต้องประสานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเรา ผมก็ต้องอธิบายนะครับว่าพี่น้องธุรการผมทุกคนก็ต้องกินต้องใช่เหมือนคนทั่วไปถ้ารายได้ไม่มีเข้ามาจะทำให้เกิดความเดือดร้อนกันมากเช่นกัน
เรื่องที่ 2 เรื่องความมั่นคง
2.1 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะการตั้งสมาพันธ์มาก็เพื่อสิ่งนี้นะครับหลายท่านเฝ้าติดตามก็ขอขอบพระคุณนะครับ เบื้องต้นต้องยอมรับจริงๆว่ารัฐบาลยังไม่เปิดขยายกรอบอัตรากำลังในตำแหน่งพนักงานราชการเพิ่มแต่อย่างใด (คำว่าเพิ่มคืออนุมัติกรอบอัตรากำลังที่มีจำนวนมากนะครับ) โดยท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารพนักงานราชการ สำนักงาน ก.พ. ได้สั่งการให้ดูแลลูกจ้างชั่วคราว(งบบุคลากร) ที่จ้างตามกรอบอัตรากำลังเท่านั้นเพื่อให้มีโอกาสขยับปรับเปลี่ยนเป็นพนักงานราชการได้ ส่วนลูกจ้างโครงการอื่นที่ไมใช้งบตามที่ ก.พ.กำหนด จำเป็นต้องให้แต่ละหน่วยงานเสนอแนวทางแก้ไขขอให้อนุมัติกรอบต่อสภาปฏิรูปเห็นชอบเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ซึ่งประเด็นของ สพฐ.ได้ผ่านกระบวนการเข้าอยู่ระหว่างขอความเห็นชอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อว่าวาระดังกล่าวจะเป็นเช่นไร หากผ่านมติเห็นชอบจาก สนช.แล้วสามารถเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาและบังคับใช้ต่อไป
2.2 แนวทางการขับเคลื่อนของสมาพันธ์ฯเรื่องความมั่นคงจากการหารือช่วงเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านเห็นชอบว่าหากรัฐบาลยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก สมาพันธ์ฯจะเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างสันติวิธีทันทีนั้น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐบาลได้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกจริง แต่ทั้งนี้ก็ยังนำมาตรา 44 มาบังคับใช้โดยเนื้อหามีดังนี้มาตรา 44 บัญญัติเอาไว้ว่า ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอํานาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทําการใดๆ ได้ ไม่ว่าการกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหารหรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่งหรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้ เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว ซึ่งเมื่อตีความตามหลักกฎหมายแล้วนั้นหมายความรวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆอันเป็นการก่อความสงบเรียบร้อย ทำให้สมาพันธ์ฯมีความจำเป็นต้องวางแผนคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบใหม่อีกรอบก็ต้องขออภัยพี่น้องครูธุรการหลายท่านที่เตรียมความพร้อมเจอกันกับภารกิจที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพราะถ้าพาพวกท่านไปโดนจับนั้นหมายความว่าจะเป็นคดีอาญาและจะไม่สามารถสอบงานราชการได้ตลอดชีวิต
2.3 สิ่งที่สมาพันธ์ทำได้ขณะนี้คือพยายามติดตามงานอยู่ 5 ฝ่าย
1.สภาปฏิรูป
2.สภานิติบัญญัติ
3.ทำเนียบรัฐบาล
4.กระทรวงศึกษาธิการ และ
5.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยปีการศึกษา 2558 นี้ ทางสมาพันธ์ฯคงจะต้องติดตามประเด็นเรื่องความมั่นคงเป็นหลักซึ่งต้องศึกษาแนวทางข้อกฎหมายให้มากกว่าเดิมเพราะ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้มาโดยการหาเสียง แต่มาโดยการแต่งตั้งโดยไม่ประสงค์ที่จะเป็นรัฐบาลต่อจึงค่อนข้างที่จะเอาจริงจังในข้อกฎหมายเป็นอย่างหนักและเข้ามาแก้ไขล้างบางในสิ่งที่ไม่ดีในกระทรวงศึกษา สังเกตจากผู้บริหารสูงสุดหลายท่านต้องออกจากตำแหน่ง
สุดท้ายนี้ สมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนประเด็นความมั่นคงอยู่ตลอดเพื่อให้สมาชิกพี่น้องครูธุรการของเราได้มีโอกาสมีอนาคตที่สดใสบ้างถึงแม้ทางข้างหน้าที่จะสู้มันค่อนค้างลำบากมีอุปสรรคมากมาย แต่เราก็จะทำให้มันดีที่สุดครับ
นายวิชญ์ธพงศ์ พุ่มบุญภาคย์
ประธานสมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทย
ที่มา สมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนภาคอิสาน 19 พฤษภาคม เวลา 15:57 น.