เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 19 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิง วัย 10 ปี ต้องลาออกจากโรงเรียน มาเลี้ยงดูบิดาที่ตาบอดจากการเกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม จนสายตาเริ่มพร่ามัว มองไม่เห็นทั้ง 2 ข้าง และร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญเข้าช่วยเหลือ โดยทั้งสองพ่อลูกอยู่บ้านเลขที่ 10 ม. 3 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าสภาพบ้านของหนูน้อยรกรุงรัง บริเวณทางเข้าเป็นถนนลูกรังห่างไกลชุมชน โดยพบกับนายทิ้ง ทับทิม อายุ 70 ปี และ ด.ญ.มนัสวี ทับทิม อายุ 10 ปี กำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน เมื่อได้พบกับผู้สื่อข่าวด.ญ. มนัสวี ก็แสดงอาการหวาดกลัวและพยายามจะวิ่งหนีจนผู้เป็นพ่อต้องกอดไว้
จากการสอบถามนายทิ้ง ทราบว่าที่ลูกสาวเป็นอย่างนี้เพราะเมื่อสมัยตอนเป็นเด็กได้วิ่งไปตกบ่อน้ำและโดนก้อนหินกระแทกหน้าอก จากนั้นรู้สึกเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออกเจ็บบริเวณหัวใจ บางครั้งต้องใช้กำปั้นทุบหน้าอกจนเหนื่อยหอบ และยังเป็นเด็กขี้กลัว เวลาเจอคนแปลกหน้าจะวิ่งหนีเพราะกลัวคนจะมาจับเข้ารถตู้ไปขอทาน และลูกสาวเคยเรียนอยู่ ที่ ร.ร.บ้านตะโกล่าง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แต่ได้ย้ายมาอยู่ที่ ต.ท่าเคย จึงให้หยุดเรียนเนื่องจากไม่มีที่พักอาศัยใกล้โรงเรียนและตนเองก็มีร่างกายที่ไม่แข็งแรงปวดหลังและสายตาทั้งสองข้างก็พร่ามัวมองไม่เห็น หลังจากประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ไม่นานก็ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ได้ ลูกสาวต้องออกจากโรงเรียนมาดูแลตนและไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียนด้วย
โดยอาศัยใช้เงินเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ในการดำรงชีพ ทั้งซื้อข้าวสารและกับข้าวประทังชีวิต ไม่มีรายได้อื่น เวลาจะออกไปหาซื้อกับข้าวหรือของใช้ลูกสาวต้องพาเดินจากบ้านไปปากทางซึ่งมีระยะทางมากกว่า 4 กิโลเมตร ไปกลับเกือบ 8 กิโลเมตร โดยจะหาซื้อของใช้และกับข้าวที่เก็บไว้ได้หลายวัน เช่น ปลาร้า เอามาเก็บไว้อยู่ได้หลายวัน ส่วนน้ำดื่มก็จะต้องไปตักน้ำจากสระน้ำใกล้บ้านมาใช้อาบและดื่มกิน ลำบากมากเพราะเวลาที่น้ำแห้งก็ต้องอาศัยน้ำขุ่นๆ ที่อยู่ในโคลนมาอาบและกิน ทุกวันนี้ก็อยู่กับลูกสาวไปวันๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงวอนผู้มีจิตเมตตาช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกสาวได้ไปโรงเรียน โดยสามารถบริจาคได้ที่
เลขที่บัญชี นายทิ้ง ทับทิม ธนาคารกรุงไทย สาขาสวนผึ้ง หมายเลขบัญชี 729-0-30047-5
ที่มาจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558