“กำจร”มอบนโยบายสำนักงาน ก.ค.ศ.ย้ำงานต้องเชื่อมโยงกับคุณภาพการศึกษา คุณภาพผู้เรียน เตรียมนำร่องใช้หลักเกณฑ์ใหม่ในการขอมีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ-วิทยฐานะเชี่ยวชาญ
วันนี้(14 พ.ค.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร และบุคลากรของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการดูแลความก้าวหน้าของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งเรื่องวิทยฐานะ เงินเดือนครู โดยตนอยากให้ทุกเรื่องที่ ก.ค.ศ.ดำเนินการมีความผูกพันและเชื่อมโยงกับคุณภาพการศึกษาและคุณภาพผู้เรียน โดยเฉพาะเรื่องการขอมีวิทยฐานะ ที่เวลานี้ ก.ค.ศ.ได้เห็นชอบในหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ขอมีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญที่ปรับใหม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเริ่มนำร่องทันที หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ส่งหลักสูตรการทดสอบฉบับใหม่มาให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เพื่อใช้ในการทดสอบและประเมินครูก่อนเข้าสู่กระบวนการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะรูปแบบใหม่ ซึ่งจะยึดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กเป็นสำคัญ โดยสาเหตุที่จะต้องใช้วิธีนำร่องก่อน เพราะอาจต้องมีการปรับแก้ไข เพื่อให้เกณฑ์เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า หลักการของหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement) มีดังนี้
1.การประเมินตามหลักเกณฑ์นี้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยประเมินจากผลในการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานในหน้าที่ที่เน้นคุณภาพ ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณภาพของผู้เรียน
2.ต้องสามารถขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม
3.ใช้ห้องเรียนและนักเรียนเป็นฐาน โดยให้มีการประเมินการปฏิบัติงานจริง ณ สถานศึกษา ซึ่งจะทำให้ครูไม่ทิ้งห้องเรียน
4.ผู้ที่ขอรับการประเมินต้องมีความรู้ในสาขาวิชาที่สอน โดยต้องผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎี และประเมินประสบการณ์วิชาชีพจากส่วนราชการต้นสังกัดก่อนยื่นคำขอรับการประเมิน
5. เป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน ที่สอดคล้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบตามมาตรฐานตำแหน่ง และคุณภาพการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน วิทยฐานะที่ ก.ค.ศ. กำหนด และ
6. หลักเกณฑ์การประเมินนี้ใช้สำหรับประเมิน เพื่อให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญทุกตำแหน่ง
“หลักเกณฑ์ดังกล่าวถือว่ามีผลในทางปฏิบัติแล้ว โดยหากสพฐ. ส่งหลักสูตรการทดสอบฉบับใหม่ให้ ก.ค.ศ. ครูที่ต้องการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะก็จะต้องใช้เกณฑ์ใหม่ทันที ซึ่งตามกำหนดจะต้องส่งให้ ก.ค.ศ.ภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ขณะเดียวกัน ก.ค.ศ.กำลังเร่งตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว13 เดิม ซึ่งยังมีค้างอยู่ประมาณ 500 คน ให้เรียบร้อย และหากใครไม่ผ่านการประเมินก็สามารถยื่นได้อีกครั้งตามหลักเกณฑ์ใหม่“ เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าว.
ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสที่ 14 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:00 น.