เป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง สำหรับการจัดอันดับที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดอันดับโรงเรียนทั่วโลกที่ได้รับการตีพิมพ์ โดยโออีซีดี หรือ หน่วยงานคลังสมองของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ได้จัดอันดับการเรียนการสอนสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ทั่วโลก ยกโรงเรียนในสิงคโปร์ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง ขณะประเทศไทยอยู่อันดับ 47 ตามหลังเวียดนามที่อยู่ในอันดับที่ 12
เรื่องมีอยู่ว่า หน่วยงานคลังสมองของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หรือโออีซีดี ได้ออกรายงานจัดอันดับคุณภาพการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของ 76 ประเทศทั่วโลก เพื่อเตรียมนำเสนอในการประชุม World Education Forum ที่เกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้านี้
โออีซีดีได้เปิดเผยว่า ประเทศเอเชียครองตำแหน่งในห้าอันดับแรกของโลก โดยเรียงลำดับคือ (1) สิงคโปร์ (2) ฮ่องกง (3) เกาหลีใต้ (4) ญี่ปุ่น ครองอันดับ (4) ร่วมกับไต้หวัน ทั้งนี้ อังกฤษอยู่อันดับที่ 20 และสหรัฐฯ ที่ 28 ขณะประเทศที่รั้งท้ายประกอบด้วย (72) โอมาน (73) โมร็อกโก (74) ฮอนดูรัส (75) แอฟริกาใต้ และ (76) กานา
แอนเดรียส ชเลเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาขององค์การความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือโออีซีดี บอกว่า การจัดอันดับดังกล่าวเป็นผลจากการจัดสอบเด็กนักเรียนในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก โดยใช้เกณฑ์วัดประเมินเดียวกันระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา และเป็นครั้งแรกที่ทางองค์การจัดอันดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนทั่วโลก โดยมีความตั้งใจที่ให้ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะรวยหรือจนเปรียบเทียบประเทศของตนกับประเทศที่เป็นผู้นำทางการศึกษาของโลก เพื่อค้นพบจุดแข็งและจุดอ่อนในการศึกษาในประเทศ และนำมาคิดวางแผนระยะยาว เพื่อนำความสำเร็จทางเศรษฐกิจมาปรับปรุงคุณภาพการศึกษา
แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือ เมื่อพิจารณาจากอันดับของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า เวียดนามมาเป็นอันดับที่ 12 ตามด้วยประเทศไทยในอันดับที่ 47 ตามด้วยมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 52 และอินโดนีเซียอยู่อันดับที่ 69
และเมื่อดูจากการสิงคโปร์ที่ติดอันดับ 1 แสดงให้เห็นว่าการศึกษาในประเทศนี้มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก จากทศวรรษ 1960 ที่มีประชากรไม่รู้หนังสือจำนวนมาก ทุกวันนี้ถ้าเข้าไปในห้องเรียนของประเทศในเอเชียที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆ จะพบว่าครูที่สอนมีความเข้มงวดและคาดหวัง ให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จ และ ประเทศเหล่านี้จะดึงดูดครูที่มีความสามารถให้มาสอน
โดยข้อมูลการจัดอันดับดังกล่าว แสดงผลได้ตามตารางนี้
Countries ranked on maths and science |
|
1. Singapore |
2. Hong Kong |
3. South Korea |
4. Japan (joint) |
4. Taiwan (joint) |
6. Finland |
7. Estonia |
8. Switzerland |
9. Netherlands |
10. Canada |
11. Poland |
12. Vietnam |
13. Germany |
14. Australia |
15. Ireland |
16. Belgium |
17. New Zealand |
18. Slovenia |
19. Austria |
20. United Kingdom |
21. Czech Republic |
22. Denmark |
23. France |
24. Latvia |
25. Norway |
26. Luxembourg |
27. Spain |
28. Italy (joint) |
28. United States (joint) |
30. Portugal |
31. Lithuania |
32. Hungary |
33. Iceland |
34. Russia |
35. Sweden |
36. Croatia |
37. Slovak Republic |
38. Ukraine |
39. Israel |
40. Greece |
41. Turkey |
42. Serbia |
43. Bulgaria |
44. Romania |
45. UAE |
46. Cyprus |
47. Thailand |
48. Chile |
49. Kazakhstan |
50. Armenia |
51. Iran |
52. Malaysia |
53. Costa Rica |
54. Mexico |
55. Uruguay |
56. Montenegro |
57. Bahrain |
58. Lebanon |
59. Georgia |
60. Brazil |
61. Jordan |
62. Argentina |
63. Albania |
64. Tunisia |
65. Macedonia |
66. Saudi Arabia |
67. Colombia |
68. Qatar |
69. Indonesia |
70. Botswana |
71. Peru |
72. Oman |
73. Morocco |
74. Honduras |
75. South Africa |
76. Ghana |
ซึ่งในรายงานนี้ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศกลุ่มตะวันตกกำลังจับตาเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางด้านการศึกษาของประเทศจากเอเชีย โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอันดับแซงขึ้นมา ในขณะที่สวีเดนมีอันดับที่ต่ำลงกว่าเดิมอย่างมาก ว่าระบบการศึกษาของประเทศเหล่านั้นกำลังอยู่ในสภาวะที่ประสบปัญหาอย่างร้ายแรง
Figures mapped above show estimated growth in GDP over the lifetime of pupils. The figures assume that all pupils are enrolled in schools and that they achieve at least basic skills.
- ครูบ้านนอกดอทคอม รายงาน -
- อ้างอิงข้อมูลจาก BBC NEWS -