"สมศักดิ์ ตาไชย" ขอขยายเวลาชี้แจงปม สกสค.

“สมศักดิ์”ขอขยายเวลาแจงปัญหา สกสค.

“สมศักดิ์ ตาไชย”ส่งหนังสือขอขยายเวลาชี้แจงกรณีปัญหาใน สกสค.ระบุเพิ่งได้รับหนังสือวันที่ 6พ.ค.แต่จะให้ชี้แจงวันที่ 8 พ.ค.เตรียมเอกสารไม่ทัน ด้าน ปลัดศธ.ยังตามติดเงินกู้ ช.พ.ค.หาทางเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตครู

ตามที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) มอบหมายให้นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.ฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ทำหนังสือถึง นายสมศักดิ์ตาไชย เลขาธิการ สกสค.ให้ชี้แจงการบริหารกิจการภายในของ สกสค.และกรณีหลักทรัพย์ที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตรวจสอบพบ โดยกำหนดให้ชี้แจงภายในวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นั้น

วันนี้ (12พ.ค.) นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค.กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือจากสำนักงาน สกสค.ที่ส่งมาทางไปรษณีย์ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.จึงยังไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารชี้แจงได้ทัน เพราะต้องขอคัดสำเนาเอกสารต่างๆ เพื่อประกอบการชี้แจง ดังนั้น ตนจะทำหนังสือขอขยายเวลาการชี้แจงต่อ รมว.ศธ.ในฐานะประธานบอร์ด สกสค.ผ่าน นายพินิจศักดิ์ ฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.

นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายไม่มีกรอบเวลาว่า จะต้องชี้แจงภายในวันที่เท่าไหร่ แต่เมื่อสำนักงาน สกสค.ทำหนังสือให้ชี้แจงภายในวันที่ 8 พ.ค.ซึ่งก็ทราบว่านายสมศักดิ์ ได้รับหนังสือแล้ว แต่จะขอขยายเวลาการชี้แจงออกไป ซึ่งตนไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะอนุญาตหรือไม่ คงต้องรายงานเรื่องนี้ต่อบอร์ด สกสค.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยหากนายสมศักดิ์ ทำหนังสือขอขยายเวลาเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อนวันประชุมบอร์ด สกสค.ก็จะนำหนังสือนั้นเข้าที่ประชุมด้วย แต่ถ้าไม่ทันตนก็จะรายงานด้วยวาจา ส่วนจะขยายเวลาให้หรือไม่นั้น อยู่กับบอร์ดจะพิจารณา

ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.กล่าวว่า การตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลใน สกสค.โดยเฉพาะเรื่องของทรัพย์สิน และเงินที่ได้จากดอกเบี้ยเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) นั้น ต้องแจกแจงให้ถูกต้องก่อนว่า อะไรที่ไม่ได้มาโดยมิชอบจะต้องคืนให้แก่สมาชิก รวมถึงกรณีข้อร้องเรียนการจ่ายเงิน ช.พ.ค.ล่วงหน้าถึง 6 เดือน ที่ต้องไปดูว่าเป็นไปตามลักษณะที่ควรจะเป็นหรือไม่ และต้องตรวจสอบว่ามีการทำบัญชีรายชื่อผู้เสียชีวิตหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตแต่ละเดือนด้วย เนื่องจากมีข้อสังเกตว่า มีการเฉลี่ยจำนวนผู้เสียชีวิตที่เดือนละประมาณ 500 คน เท่าๆ กัน ซึ่งหากแต่ละเดือนมีการเก็บเงินเกินจากสมาชิกเพียงคนละ 2-3ศพ ก็จะเป็นเงินเกือบ 2-3 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเงินส่วนนี้จะต้องคืนให้แก่สมาชิก หากไม่สามารถคืนได้ ก็ต้องไปหักลดให้ในเดือนถัดไป นอกจากนี้ยังมีปัญหากรณีของคนที่ใช้สิทธิสมาชิก ช.พ.ค.ไปกู้เงินและต้องทำประกันชีวิตซึ่งมีจำนวนกว่า 2แสนคน ก็ต้องไปคุยกับบริษัทประกันว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องทำประกันชีวิต ผู้กู้ประสงค์จะทำประกันเองได้หรือไม่หรือ ถูกหลอกให้ทำและจะสามารถเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตได้หรือไม่.