คลังจ่อเรียกเงินในโครงการสวัสดิการข้าราชการปี 2545 ของ ธอส. คืน 7,600 ล้านบาท
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ และนำเงินงบประมาณดังกล่าวที่กรมบัญชีกลางฝากอยู่ที่ ธอส. ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินนั้น ธอส. ชี้แจงว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลาง เพื่อหาวิธีปฏิบัติไม่ให้ลูกค้าที่ยังอยู่ในโครงการเดิมได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ธอส.มีมติให้นำเงินฝากตามโครงการดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทั้งหมด คืนที่กรมบัญชีกลางเพื่อส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 7,600 ล้านบาท แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบกับสภาพคล่องหรือความแข็งแกร่งของธนาคาร เนื่องจากมีสถานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ณ สิ้นเดือน มี.ค. อยู่ที่ 16.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ธนาคารแห่งประเทศ ไทยตั้งเอาไว้ที่ 8.5%
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการที่ให้ยุติเป็นโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการในปี 2545 เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสินเชื่อโครงการอื่นที่ยังมีรองรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบ้าน ธอส.–กบข. และโครงการ สินเชื่อสำหรับบุคลากรภาครัฐ โดยยอด สินเชื่อล่าสุด ณ เดือน มี.ค. 2558 มีข้าราชการและบุคลากรภาครัฐได้รับสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าวไปแล้วกว่า 2.52 แสนบัญชี วงเงินกู้รวมกว่า 1.84 แสนล้านบาท และขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวโครงการประจำปี 2558 อีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อ ที่อยู่อาศัยของข้าราชการ เป็นโครงการให้สินเชื่อแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2535 โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-3.00 (ปัจจุบัน 6.85 ต่อปี) โดยได้รับงบอุดหนุนจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง และ ธอส.สมทบอีกส่วนหนึ่ง แต่ได้ยุติการปล่อยสินเชื่อใหม่มาแล้วตั้งแต่ปี 2545 โดยมีจำนวนข้าราชการเข้าร่วมทั้งหมด 7.15 หมื่นบัญชี วงเงิน 2.73 หมื่นล้านบาท ณ วันที่ 31 มี.ค. 2558 ยังมีลูกค้าคงเหลือ 2,670 บัญชี วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อหาวิธีปฏิบัติเพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ยังอยู่ในโครงการเดิมได้รับผลกระทบ
ที่มา โพสต์ทูเดย์ 12 พฤษภาคม 2558