มาเฟีย "ศธ." งาบหมื่นล้าน??

คอลัมน์ การศึกษา: มาเฟีย 'ศธ.' งาบหมื่นล้าน??

ข่าวพาดหัวไม้หน้า 1 หนังสือพิมพ์หลายฉบับ ก่อนสิ้นเดือนเมษายน 2558 เล่นเอาอุณหภูมิในกระทรวงศึกษาธิการ ร้อนระอุ เพิ่มเป็นทวีคูณต่อเนื่อง หลัง 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคำสั่งตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 จัดระเบียบผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงคุณครู รับมือปฏิรูปการศึกษา ไปเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา

ว่ากันว่า ศ.ศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาแฉ!ผ่านสื่อว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องไปยัง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศรัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบ (คสช.) เกี่ยวกับข้าราชการใน ศธ. ที่เกี่ยวข้องกับ 'ความไม่โปร่งใส' ในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท

"ขณะนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินก็กำลังตรวจสอบความไม่โปร่งใสในกระทรวงศึกษาฯ อีกกรณีหนึ่ง และอาจมีความเกี่ยวโยงกับกรณีแรก แต่กรณีนี้มีมูลค่าสูงไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท และมีแนวโน้มว่าอาจถึงหลักหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว" ศ.ศรีราชา ระบุ

ว่ากันว่า ข้อมูลที่ ศ.ศรีราชา ออกมาแฉ! ผ่านสื่อมวลชนนั้น มาจาก องค์กรกู้ชาติ หรือที่รู้จักมักคุ้นกันดีในนาม 'สำนักงานคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ที่มี พล.อ.สำเริง พินกลาง นั่งหัวโต๊ะ เป็นประธานคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านกานทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ คนปัจจุบัน

"ความไม่โปร่งใสดังกล่าวทำให้เกิดมาเฟียในกระทรวงศึกษาฯ ขึ้น และเม็ดเงินดังกล่าวก็เป็นเงินที่เลี้ยงคนกลุ่มดังกล่าว โดยเป็นเงินที่มาจากสวัสดิการทั้งหลายในกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีผู้บริหารบางตำแหน่งได้เงินจากคนกลุ่มนี้ประมาณ 150,000 บาทต่อเดือน โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่เซ็นคำสั่งตามที่กลุ่มมาเฟียต้องการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากนัก เพราะเดี๋ยวจะทำให้ไก่ตื่น และมีการปิดบังข้อมูลได้ แต่ผมยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อกำจัดคนที่ไม่ดีออกจากกระทรวงศึกษาฯ ให้หมด เพราะถ้าคนเหล่านี้ยังอยู่ การปฏิรูปศึกษาก็คงจะไม่มีทางสำเร็จ" ศ.ศรีราชา ระบุ

นัยว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน กำลังจะตั้งทีมงานเข้าไปดูข้อมูลในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว คงจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และหลังจากได้ข้อมูลครบถ้วนและสรุปเรื่องได้แล้ว ก็จะเสนอชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องให้ 'หัวหน้า คสช.' พิจารณาใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา 44 เพื่อโยกย้ายข้าราชการกลุ่มดังกล่าวและอาจส่งรายชื่อเพิ่มเติมไปอีก เพราะหากตรวจสอบข้อมูลแล้วไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ก็ต้องตรวจสอบต่อไป

'3 องค์กร' ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังจะตรวจสอบ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน สกสค.) องค์การค้าของ สกสค. และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศรัย เหนื่ออื่นใด '3 องค์กร' ดังกล่าว มี พล.ร.อ.ณรงค์ และ รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการ ทั้งยังเป็น 'ผู้บังคับบัญชาสูงสุด' ของ 3 องค์กรอีกด้วย

"ผู้บริหารกระทรวงศึกษาฯ รับเงินจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล ตกเดือนละ 150,000 บาท เพื่อให้เซ็นเรื่องที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลต้องการ ผมไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าว แต่ผมยืนยันว่าโดยส่วนตัวไม่เคยรับเงินจากใคร และพร้อมให้ตรวจสอบได้ครับ"

รศ.นพ.กำจร ยืนยันเสียงหนักแน่น เมื่อเอ่ยชื่อ รศ.นพ.กำจร ตติยกวีเป็นคนเดียวที่ใช้อำนาจ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ลงนามในคำสั่ง 'ไล่ออก'3 ผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ถึงนาทีนี้ ความหวังที่จะล้างบางมาเฟียในกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่คนใดคนหนึ่งจะจัดการได้ ต้องอาศัย 'กระแสสังคม อำนาจ บารมี กฎหมาย' เข้ามาจัดการขั้นเด็ดขาด โดยมี 'พล.อ.ประยุทธ์-พล.ร.อ.ณรงค์-รศ.นพ.กำจร' 3 ผู้นำ ต้อง 'เอาจริง' กวาดล้างให้สิ้นซาก โดยเฉพาะ 'องค์กร' ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการ 'ย้ายครู' ว่ากันว่า เม็ดเงินสะพัดจำนวนมหาศาล และส่งผลร้ายต่อคุณภาพการศึกษาของเด็กและการปฏิรูปการศึกษา

หากรักและห่วงใยอนาคตเด็กไทย รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องล้างบางมาเฟียกระทรวงศึกษาธิการให้สิ่นซาก ระวังอย่ากลายเป็น 'ตาอยู่' เสียเองเน้อ!!

เรื่องที่เกี่ยวข้อง