เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 พ.ค. 2558 ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. โดยกล่าวถึงกรณีข้อเสนอปฎิรูปการศึกษา เรื่องกระจายอำนาจจัดการการศึกษาสู่ท้องถิ่น โดยถ่ายโอนโรงเรียนและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปอยู่ในการกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกกังวลในเรื่องนี้ และอยากบอกกับบรรดาครูที่ออกมาแต่งชุดดำคัดค้านและผู้ที่เกี่ยวข้องว่า อย่าไปตกใจกับกรณีที่มีการเสนอแนวคิดนี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา และยังไม่รู้เลยว่าการปฏิรูปจะระบุไว้ในส่วนใดของรัฐธรรมนูญ ไม่รู้เลยว่าจะปฏิรูปอย่างไร ใครเป็นผู้ใช้อำนาจแต่การปฏิรูปนั้นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลชุดใหม่ โดยการปรับแก้ไขภายในกระทรวง ต้องหาผู้ที่รับผิดชอบ ถามว่าสองรัฐบาลที่ผ่านมามีแนวคิดที่จะปฏิรูปแล้วทำได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ เพราะการปฏิรูปนั้นกระทบต่อคะแนนเสียง ความเห็นชอบของประชาชน การที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่สามารถเอาใจทุกคนได้ จำเป็นต้องมีกรอบให้เดินในระยะแรก
"ที่ สปช.เสนอให้ครูในพื้นที่ไปขึ้นกับท้องถิ่น เป็นการเสนอใน สปช. แต่ก็เอาแล้ว ไม่ยอมเดินขบวน มันยังไม่ออกมาเลย รัฐธรรมนูญก็ยังไม่เสร็จ จะประท้วงอะไรตั้งแต่วันนี้ ทุกกฎหมายก็ต้องไปสู้กันใน สนช. กว่าจะออกมาก็สามวาระ ซึ่งก็จะต้องมีการชี้แจง ปรับเปลี่ยน แก้ไข" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า วันนี้ทุกคนต้องเสียสละมองประโยชน์ของชาติเป็นหลัก จะอยู่อย่างนี้หรือ จะอยู่แบบธรรมชาติต่อไปไม่ได้ วันนี้ได้สั่งการไปว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องยืนยันกฎหมายเป็นกฎหมาย ในการดำเนินการต่าง ๆ ต้องนำกฎหมายมาดู เพื่อจะได้ทราบว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง ทำอย่างไรประชาชนจึงจะอยู่ร่วมกันในกฎหมายที่มีอยู่อย่างเป็นธรรม หากไม่มีปัญหาต่อกันก็ไม่ต้องใช้ วันนี้มีกฎหมายที่แรงที่สุดแล้วคือกฎอัยการศึกและรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ถามว่าถ้าปลุกระดมกันขึ้นมามาก ๆ ก็มีโอกาสเกิดขึ้น ถ้าประชาชนไม่เข้มแข็ง ไม่เข้าใจว่าระบบบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาอธิบายไม่มาก แน่นอนการทำทุกย่างต้องมีปัญหา แต่เราเลือกประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำอะไรประชาชนต้องได้ประโยชน์
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 07 พ.ค. 2558