ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)


บทความการศึกษา 7 พ.ค. 2558 เวลา 05:21 น. เปิดอ่าน : 8,554 ครั้ง
Advertisement

ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)

Advertisement

คอลัมน์ Education Idea โดย ดร.ไกรยส ภัทราวาท สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณภาพเยาวชน (สสค.)

ประเทศไทยเคยมีระบบการจัดการศึกษา "มัธยมแบบประสม" ซึ่งพบว่าเป็นระบบการออกแบบหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่น ลดปัญหานักเรียนออกกลางคัน สร้างทัศนคติที่ดีทางด้านอาชีพให้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง โดยปัจจุบันมีโรงเรียนสายสามัญร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษาที่เปิดสอนเพื่อให้เด็ก 2 วุฒิ คือ ม.6 และ ปวช. เช่น ร.ร.หนองบุนนากพิทยาคม จ.นครราชสีมา ร.ร.สระหลวงพิทยาคม จ.พิจิตร และ ร.ร.ดีนูลอิสลาม จ.สงขลา

สิ่งที่น่าคิดต่อไปคือ ประเทศไทยควรจะลงทุนการศึกษาอย่างไร ในขณะที่งบประมาณการศึกษาใกล้จะชนเพดาน ?จากสถิติงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการย้อนหลัง 10 ปี (2548-2557) จาก 262,938 ล้านบาท เป็น 482,788 ล้านบาท ซึ่งพบว่าประเทศไทยลงทุนด้านการศึกษาเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษายังตกต่ำ

หากมีการลงทุนเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้น แต่เติมเข้าไปในระบบเดิมก็จะได้ผลดังเดิม จึงมีตัวอย่างการใช้นวัตกรรมการจัดรายได้และการใช้จ่ายเงิน อย่างประเทศบราซิล ซึ่งมีจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย คือระหว่างปี 2542-2543 แต่บราซิลมีโจทย์ที่ท้าทายยิ่งกว่า นั่นคือ จำนวนประชากรที่สูงกว่าไทยถึง 3 เท่า และปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าไทย

แต่ 10 ปีผ่านไป ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของนักเรียนในบราซิลกลับเพิ่มขึ้น ทั้งผลการสอบ PISA ในวิชาคณิตศาสตร์ ปี 2552 ที่มีคะแนนเพิ่มขึ้น 30 คะแนน และวิทยาศาสตร์ เพิ่มขึ้น 15 คะแนน ขณะที่ไทยลดลงในวิชาคณิตศาสตร์ 13 คะแนน

ผ่านมาทั้งไทยและบราซิลต่างใช้มาตรการเพิ่มงบประมาณเข้าไปในระบบการศึกษา โดยไทยมีสัดส่วนการลงทุนด้านงบประมาณเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว ในขณะที่บราซิลไม่ได้เริ่มที่การเพิ่มงบประมาณเข้าสู่ระบบการศึกษาทันที แต่เริ่มที่การติดตั้งระบบสารสนเทศ (Basic Education Development Index หรือ IDEB) เพื่อติดตามการเข้าเรียนและพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก

จากนั้นจึงจัดสรรเงินอุดหนุนตามตัวผู้เรียนเพิ่มเติม ตามความต้องการด้านการเรียนรู้ของผู้เรียนและเด็กกลุ่มเสี่ยงเป็นรายบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา รวมถึงการเพิ่มเงินอุดหนุนเงินเดือนครูเพื่อสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมคุณภาพการพัฒนาครู โดยเฉพาะครูที่อยู่โรงเรียนห่างไกล และการอุดหนุนเงินไปที่ครอบครัวผู้เรียนยากจนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครอบครัวสนับสนุนให้เด็กวัยเรียนศึกษาต่อจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นมาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

การเพิ่มงบประมาณเข้าไปในระบบการศึกษาเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอที่จะทำให้ระบบการศึกษาดีขึ้น สิ่งสำคัญคือการจัดสรรงบประมาณไปให้ถูกจุดโดยมีระบบสารสนเทศเป็นเครื่องมือสนับสนุนการจัดการที่ลงลึกถึงโรงเรียนเพื่อเติมทรัพยากรตามความต้องการได้อย่างตรงจุด การให้อิสระในการจัดการเรียนการสอนแก่โรงเรียน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบของครูและผู้อำนวยการโรงเรียนโดยใช้ระบบสารสนเทศเป็นตัวกำกับ

ขณะนี้ สสค.อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสารสนเทศหลักประกันโอกาสทางการเรียนรู้เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยติดตามผลการพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงวัยแรงงาน โดยจะพัฒนาพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน นครราชสีมา ภูเก็ต พิษณุโลก และอำนาจเจริญ ก่อนที่จะขยายผลการจัดทำข้อมูลสู่ระดับประเทศต่อไป

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 6 พ.ค. 2558

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)

 


ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา(จบ)

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

แสงส่องทางจากการศึกษา

แสงส่องทางจากการศึกษา


เปิดอ่าน 12,261 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)


เปิดอ่าน 8,268 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ

Speed Leader 5 กุญแจความสำเร็จสร้างผู้นำ

เปิดอ่าน 13,998 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ปฏิรูปการศึกษา ?
ปฏิรูปการศึกษา ?
เปิดอ่าน 8,662 ☕ คลิกอ่านเลย

อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
เปิดอ่าน 23,288 ☕ คลิกอ่านเลย

บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง
บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง
เปิดอ่าน 696,807 ☕ คลิกอ่านเลย

เขาห้ามผมทำ แต่ไม่ห้ามผมคิด ตอนที่ 10 : เมื่อโรงเรียนเป็นนิติบุคคลแล้วประชาชนได้อะไร
เขาห้ามผมทำ แต่ไม่ห้ามผมคิด ตอนที่ 10 : เมื่อโรงเรียนเป็นนิติบุคคลแล้วประชาชนได้อะไร
เปิดอ่าน 10,130 ☕ คลิกอ่านเลย

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เปิดอ่าน 14,178 ☕ คลิกอ่านเลย

แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์
แนวโน้มนโยบายด้านการศึกษาของโดนัลด์ ทรัมพ์
เปิดอ่าน 30,640 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

จุดกำเนิดของ Google.com
จุดกำเนิดของ Google.com
เปิดอ่าน 10,786 ครั้ง

จุ่มลวก (หรือลวง)
จุ่มลวก (หรือลวง)
เปิดอ่าน 12,460 ครั้ง

ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
เปิดอ่าน 10,343 ครั้ง

ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
เปิดอ่าน 32,708 ครั้ง

รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
เปิดอ่าน 69,560 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ