“กำจร” หวั่นหลักฐานสูญจัดเวรยามคุมเข้ม ยื่นผลักดันเป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่า เบื้องต้นทาง คตร.แจ้งว่าจะเข้ามาตรวจสอบเอกสารการเงิน การบัญชี การจัดซื้อจัดจ้างเป็นหลักและจะเริ่มเข้าตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ โดย คตร.ให้ความสนใจเกี่ยวกับการเงินของ สกสค.ที่มีมูลค่ามาก และปัญหาหนี้สินครู ทั้งนี้ตนได้กำชับทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สกสค. องค์การค้าของ สกสค. และคุรุสภา จัดเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องเอกสารอย่าให้ถูกทำลาย หรือเกิดการสูญหายเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบได้ จึงควรเพิ่มเวรยาม
ด้านนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ตนได้ สั่งการให้รองเลขาธิการ สกสค.เพิ่มเวรยามรักษาความปลอดภัยสำนักงาน สกสค.แล้ว
วันเดียวกัน นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อดีตคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา 9 องค์กร ได้ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือกับกระทรวงยุติธรรม และ ศธ. เพื่อขอให้มีการผลักดันให้เรื่องทุจริตที่ตรวจพบใน 3 หน่วยงานของ ศธ.ขึ้นเป็นคดีพิเศษเพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอได้เข้ามาทำคดี
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้แทนจากภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งตรวจสอบความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตดังกล่าว ทั้งสั่งให้รองเลขาธิการ ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 3 หน่วยงานที่มาโดยคณะกรรมการ หรือผู้บริหาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และยกเลิกสัญญาจ้าง เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับทางราชการ รวมทั้ง ขอให้มีการเรียกเงินคืนแผ่นดิน และควรมีการตั้งคณะกรรมการกลางตรวจสอบที่เป็นกลาง.
ที่มา ไทยรัฐ 29 เม.ย. 2558