3 เม.ย. 58 พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานผลการสืบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตการก่อสร้างอาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จำนวน 360 ล้านบาท ที่มี รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.เป็นประธาน พบว่ามีมูลส่อไปในทางทุจริตและเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัย นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค. หรือให้ยกเลิกสัญญาจ้างและดำเนินการทางกฎหมายเป็นคดีอาญานั้น ขณะนี้ ตนได้รับรายงานสรุปผลการสอบแล้ว เบื้องต้นได้มอบให้สำนักนิติการ สำนักงานปลัด ศธ. ไปพิจารณาในรายละเอียดและให้เสนอแนะกลับมาว่าควรจะดำเนินการเช่นไร เนื่องจาก นายสมศักดิ์ ไม่ได้เป็นข้าราชการและได้รับการสรรหาเข้าสู่ตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.รับรองโดยมติคณะกรรมการ สกสค.เป็นสัญญาจ้าง แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นระบบราชการหรือการจ้างงาน ก็ต้องมีกฎระเบียบเรื่องวินัยมาเกี่ยวข้อง เพียงแต่ประเด็นนี้เพื่อให้ชัดเจนและถูกต้องจึงต้องให้นิติกรที่มีความเชี่ยวชาญได้ดูลึกในรายละเอียดแล้วเสนอมาว่าควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯ ได้เสนอให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยแต่คงไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือเป็นความลับทางราชการ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ทตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) คณะกรรมการบริหารองค์การค้า ของ สกสค.และคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรก เพราะฉะนั้น ประเด็นที่หารือส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการดำเนินงานและการบริหารงานของทั้ง 3 หน่วยงาน ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดมากแต่น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการประชุมครั้งต่อๆ ไป อย่างไรก็ตาม ในคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุแค่ให้เลขาธิการ สกสค. เลขาธิการคุรุสภา และผอ.องค์การค้าฯ ยุติการทำงานเท่านั้น เพราะฉะนั้น เวลานี้ทั้ง 3คนยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมแต่ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ส่วนตำแหน่งรองเลขาธิการ เวลานี้ก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังมีคำสั่ง คสช.ให้นายสมศักดิ์ ตาไชย ,นายสมมาตร มีศิลป์ ผอ.องค์การค้าฯ และนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ได้รับการประสานจากทั้ง 3 ราย เพื่อเข้าชี้แจงบ้างหรือไม่ พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานเข้ามา
ที่มา แนวหน้า วันพฤหัสบดี ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558