ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ชี้กรณีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นำเงินไปร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชน อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและไม่มีความโปร่งใส
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นำเงินกองทุนจำนวน 2,100 ล้านบาท ไปร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนธันวาคม 2556 เพื่อก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ จ.เพชรบุรี และอดีตบอร์ด สกสค.คนหนึ่ง ได้ร้องเรียนว่าอาจเป็นการใช้เงินกองทุนเพื่อการลงทุนผิดระเบียบวัตถุประสงค์
เบื้องต้น สตง.พบว่าการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ สกสค. รวมถึงยังไม่มีความโปร่งใสในการดำเนินการ ทำให้อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง สตง.จะดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลส่งให้กับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ต่อไป ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้ คตร. ตรวจสอบความไม่โปร่งใสและการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ ของ สกสค.
ก่อนหน้านี้ หัวหน้า คสช. ออกคำสั่งฉบับที่ 7/2558 ที่มีสาระสำคัญให้เลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการ สกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. รวมถึงคณะกรรมการบริหารของแต่ละชุด ยุติการปฏิบัติหน้าที่
ชมคลิปข่าวนี้
ที่มา Thai PBS วันที่ 19 เมษายน 2558