สช.เรียกเงินคืนรร.เอกชนรับอุดหนุนซ้ำซ้อน
นายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนการศึกษาของโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556โดยขอให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบฐานข้อมูลด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก พบว่า มีตัวเลขเด็กโรงเรียนเอกชน ซ้ำซ้อนกับสถานศึกษาสังกัดอื่นถึง 40,000 กว่าคน และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าในจำนวนนี้มีตัวจริงที่เรียนอยู่กับโรงเรียนเอกชนเพียง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออยู่กับสังกัดอื่น โดยส่วนใหญ่อยู่กับโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เมื่อเป็นเช่นนี้ สช.จึงมีหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุนเกินจำนวนนักเรียนที่มีอยู่จริงให้ส่งเงินคืนมายัง สช.แล้ว
"จากการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2556-2557 พบว่ามีบางโรงเรียนมีชื่อนักเรียนซ้ำกับโรงเรียนสังกัดอื่นเป็นร้อยคน แต่เท่าที่ติดตามส่วนใหญ่ไม่มีเจตนาที่จะแจ้งข้อมูลเท็จ แต่อาจเกิดจากระบบการส่งต่อนักเรียน และฝ่ายทะเบียนไม่มีการอัพเดทข้อมูลนักเรียนให้เป็นปัจจุบัน เช่น เมื่อมีเด็กย้ายออกไปเรียนที่อื่นแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดชื่อออกจากระบบของโรงเรียน หรือเด็กบางคนก็ไม่ได้แจ้งย้ายออกแต่หายไปเฉย ๆ ทำให้มีรายชื่อค้างอยู่ในโรงเรียนเดิม เป็นต้น"
เลขาธิการ กช.กล่าวและว่า หลังจากนี้ สช.จะเร่งทำความเข้าใจกับโรงเรียนเอกชนและเข้มงวดเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก สำหรับปีงบประมาณ 2558 นี้ สช.จะให้เริ่มดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าปัญหาน่าจะลดลงไปมาก
เลขาธิการ กช.กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่เรียกคืนเงินคืนมา 2 ปี โรงเรียนส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยถ้าโรงเรียนไหนต้องส่งเงินคืนจำนวนมากกว่า 1 ล้านบาท สช.ก็อนุโลมให้ผ่อนจ่ายคืนเป็นงวด ๆ ได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับการบริหารจัดการ โดยขณะนี้โรงเรียนได้ส่งเงินคืนมารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่ง สช.ก็จะดำเนินการส่งคืนคลังต่อไป
ที่มา สยามรัฐ วันที่ 15 เมษายน 2558