เป็นกระทู้สุดฮอต ที่มีคนค้นหามากที่สุดในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมสอบแข่งขัน เพื่อคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เกี่ยวกับเทคนิค วิธีการอ่านหนังสือเตรียมสอบในครั้งนี้ เป็นกระทู้ที่เขียนขึ้นตั้งแต่ช่วงการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ที่ผ่านมา เป็นการแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการเตรียมตัว และตารางการอ่านหนังสือเตรียมสอบบรรจุครูผู้ช่วย โดยใช้เวลาเตรียมตัว 1 เดือน โดยคุณสมาชิกหมายเลข 1899010 ในเว็บไซต์พันทิป.คอม ซึ่งครูบ้านนอกขออนุญาตนำมาแบ่งปันสำหรับผู้ที่อ่านกันต่อครับ
แบ่งปันประสบการณ์ "สอบบรรจุครูผู้ช่วยได้" โดยใช้เวลาเตรียมตัว 1 เดือน
ช่วงนี้มีข่าวจะเปิดสอบบรรจุข้าราชการ ครู ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ (ว.3/2558)
ผมอยากแบ่งปันประสบการณ์ การเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ ให้ พี่-น้อง เพื่อนครู ลองนำไปปรับใช้ดูครับ -คัดลอกมาจากครูบ้านนอกดอทคอม
ขอออกตัวก่อนว่า ผมเรียนไม่เก่งและไม่มีเส้นสาย พื้นเพผมเป็นเด็กชนบท มาจากครอบครัวคนจน
แม่...ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อ...เรียนจบ ม.6 กศน. ทั้งสองมีอาชีพรับจ้าง แต่ก็สามารถหาเงินส่งผมเรียนจนจบ ปริญญาตรี
ผมเรียนที่ราชภัฏ จบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.49 หลังเรียนจบก็ทำงานเอกชน 1 ปี เป็นครูอัตราจ้าง 1 ปี
ระหว่างเป็นอัตราจ้างผมก็เรียน ป.บัณฑิต (วิชาชีพครู)ไปด้วย
เรียนจบ ป.บัณฑิต เดือน มีนาคม ปี 53 ได้ใบประกอบวิชาชีพเดือนเมษายน สอบบรรจุครั้งแรก เมื่อเดือน พฤษภาคม
โดนเรียกบรรจุวันที่ 23 กรกฎาคม เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในปีเดียวกัน
ปัจจุบัน เป็นข้าราชการครู สังกัด สพม.36 อายุราชการ เข้าปีที่ 5 ละครับ
ในช่วงเตรียมตัวก่อนสอบ (เดือนเมษายน) ผมได้ออกแบบตารางเตรียมตัวอ่านหนังสือของตัวเอง
และลงมือทำตามตารางอย่างเคร่งครัด
ผลลัพธ์ที่ได้จากตารางนี้ อยู่ในระดับพอใช้ครับ สอบบรรจุครั้งแรกปี 2553 ได้ที่ 11 (ประถม) สพป.เชียงราย เขต 3
ครั้งที่สอง (สอบย้ายขึ้นมัธยม )ปี 2554 ได้ที่ 5 (มัธยม) สพม.36 และครั้งล่าสุด(สอบย้ายกลับบ้าน) 2557 ไม่ได้ใช้ครับ ฮ่าๆๆ ได้ที่ 20 (มัธยม) สพม.36
ครั้งหลังสุดที่ไปสอบ ไม่ได้ทบทวนตามตารางเลย แต่ตอนเข้าสอบก็ยังจำความรู้ต่างๆที่เคยอ่านไว้เมื่อคราวสอบครั้งแรกได้
ลองดูรายละเอียดการเตรียมตัวจากตารางครับ…
ในการเตรียมตัวอ่านหนังสือ ผมจะให้ความสำคัญในการสร้าง สมาธิ เนื่องจากผมเป็นเด็กที่เคยอยู่วัดมาก่อน เห็นพระต้องทำวัตรเช้า – เย็น หลังจากทำวัตร
ก็นั่งสมาธิต่อประมาณครึ่งชั่วโมง สังเกตว่า พระ เกือบทุกรูป สามารถท่องบทสวดมนต์โดยที่ไม่ต้องดูหนังสือ และยิ่งพระที่เก่งๆ
ตัวอย่างเช่น
หลวงพ่อ พุทธทาส ,พระพรหมคุณาภรณ์ (ปอ.ปยุตโต) ,พระไพศาล วิสาโล , พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
สามารถจดจำหลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฏก ที่มีมากมาย ได้อย่างแม่นยำ อยากบรรยายเรื่องไหน พระสูตรไหน ก็หยิบมาพูดได้ทันที
จะเห็นได้ว่าคนที่มีสมาธิ สามารถจดจำอะไรได้ดี เราอยากจำเนื้อหาเพื่อเอาไปสอบ
ดังนั้นเราต้องมีสมาธิ
สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างคือ มื้อเช้า
เป็นมื้อที่เน้นที่สุด ต้องทานทุกวัน ขาดไม่ได้ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องและจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่ช่วยกระตุ้นการทำงาน
ของระบบต่างๆในร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพรวมถึงวิถีชีวิตของปราชญ์ เช่น พระเกจิ ดังๆ ต่างก็ทานมื้อเช้าทั้งนั้น มื้ออื่นๆ ไม่ว่ากันครับ ตามสะดวก มื้อเย็นงดได้ยิ่งดี
ต่อมาก็เรื่องการนอนครับ จากตาราง จะมีเวลานอน 5 ชั่วโมง ตรงนี้สัมพันธ์กับการสวดมนต์นั่งสมาธิ ตอนก่อนจะนอน
ผมสังเกตุว่า ถ้าวันไหนสวดมนต์นั่งสมาธิ ผมจะนอนหลับสนิทตื่นมา รู้สึกสดชื่น มีเรี่ยวแรง เหมือนโด๊ปยาทั้งวัน 55+
ช่วงที่ทำ รู้สึกแบบนี้จริงๆ ส่งผลให้ผมอ่านอะไรก็เข้าใจไปหมด อันนี้ไม่ได้โม้นะครับ ลองทำดู ช่วง 3 วันแรกนี่ วัดใจเลย
แต่พอผ่านเข้าวันที่ 4 ทำอะไรก็ดีไปหมดผมทำแบบนี้อยู่ 1 เดือนก่อนไปสอบ
ส่วนเรื่องเวลา ที่ผมกำหนดให้ตื่นนอนตี 2 ก็ใช้หลักการทำงานของนาฬิกาชีวิต ที่มีนักวิทยาศาสตร์เขาวิจัยมา
อย่าเพิ่งเชื่อที่ผมบอกครับ ให้ใช้หลัก "กาลามสูตร " พิสูจน์ด้วยตัวท่านเองก่อน
ขอย้ำว่า..ต้องอดทนและมีวินัย ทำให้ได้ตามที่เราวางไว้ ภารกิจ 1 เดือนเพื่อเป้าหมาย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทำแค่นี้สบายมากครับ ลองคิดดูครับ เรามีเวลาไปสังสรรค์ทั้งคืน มีเวลาไปเที่ยวเป็นวันๆ กับแค่เจียดเวลามาอ่านหนังสือเพื่อตัวเองทำไมจะทำไม่ได้
เป็นกำลังใจให้ว่าที่ครูผู้ช่วยทุกคน ลองแล้วได้ผลยังไง มาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ..
อัพเดทข้อความล่าสุดเมื่อ 25 มกราคม เวลา 20:51 น. โดยคุณสมาชิกหมายเลข 1899010
ขอบคุณที่มาจาก เว็บไซต์ pantip.com
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคการเตรียมตัวผสมกับความตั้งใจส่วนบุคคล ที่ครูบ้านนอกดอทคอม ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่มีเวลาในการเตรียมตัวน้อย ได้ลองปรับใช้ดูนะครับ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การเตรียมตัวที่ดีนั้น จะต้องใช้เวลาอ่านหนังสือและเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ เพราะในการสอบทุกครั้ง ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเองเท่านั้นครับ
ครูบ้านนอกดอทคอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ