ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก ครั้งที่ 9/2558 เมื่อวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 ที่ห้องประชุมจันทรเกษม ซึ่งมีพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึง การกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
การกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ ครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่มีสภาพยากลำบาก เช่น บนพื้นที่สูง พื้นที่ชายขอบ ตามเกาะแก่ง และพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ไม่สงบ เป็นต้น โดยจะมีการจ่ายเงินเพิ่มตามลักษณะความยากลำบากและลักษณะพิเศษของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งได้จ่ายเงินพิเศษในส่วนนี้ให้กับบุคลากรสายนิติการ และบุคลากรทางการศึกษาที่ดูแลการสอนผู้พิการอยู่แล้ว
ที่ประชุมจึงได้มีมติให้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปสำรวจและเทียบเคียงการกำหนดเงินเพิ่มกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีการจ่ายเงินอุดหนุนลักษณะดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีการจ่ายเบี้ยกันดารให้กับข้าราชการทุกกระทรวงที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ยากลำบาก รวมทั้งขอให้พิจารณาความเหมาะสม ตลอดจนหามาตรการจูงใจอื่นที่ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูในพื้นที่ยากลำบากให้ได้ เช่น การย่นระยะเวลาในการประเมินวิทยฐานะ การนับอายุราชการเพิ่มสำหรับข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ยากลำบาก โดยให้จัดทำรายละเอียดและนำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อรัฐมนตรีของกระทรวงศึกษาธิการในการวิ่งเต้นช่วยเหลือเรื่องต่างๆ นั้น รมว.ศึกษาธิการได้ย้ำในที่ประชุมด้วยว่า การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันถือเป็นเรื่องสำคัญมาก กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายชัดเจนว่าจะต้องไม่มีเรื่องการวิ่งเต้นช่วยเหลือหรือทุจริตคอร์รัปชันใดๆ ทั้งสิ้น การแอบอ้างชื่อในลักษณะดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้ที่ถูกแอบอ้างฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่บุคคลภายนอกที่หลงเชื่อคำแอบอ้างก็ได้รับความเสียหายเช่นกันด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.kroobannok.com/74603