คอลัมน์หมายเลข 7 : ครูร้องตรวจปล่อยกู้กองทุน ช.พ.ค. ตอน 2
คอลัมน์หมายเลข 7 ต้านทุจริตตามติดกลโกง วันนี้ติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการ สกสค. กรณีเอกชนกู้เงินกองทุน ช.พ.ค. 2,100 ล้านบาท แต่ยังไม่ส่งคืนเงินต้นให้กองทุนทั้งที่ครบกำหนดตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ติดตามจากคุณสมโภชน์ โตรักษา
การตรวจสอบข้อร้องเรียน จากสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สมาชิก ช.พ.ค. เมื่อวานนี้คอลัมน์หมายเลข 7 เสนอข้อมูลจากสมาชิก ช.พ.ค. และรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค. ซึ่งมีหน้าที่บริหารจัดการกองทุน ช.พ.ค.
สำหรับที่มาของกองทุน ช.พ.ค. รองเลขาธิการ สกสค.ชี้แจงว่า ประกอบด้วย กองทุนส่งเสริมความมั่นคง เก็บเงินจากสมาชิกคนละ 2,000 บาท ซึ่งกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสินอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยฝากไว้ที่สถาบันการเงิน ปัจจุบันมียอดกว่า 1,300 ล้านบาท กองทุนนี้คณะกรรมการ สกสค.ไม่มีสิทธินำไปหาประโยชน์
อีกกองทุนมาจากดอกเบี้ยที่ครูและบุคลากรทางการศึกษา กู้จากธนาคารออมสิน โดยหักให้กองทุนนี้ร้อยละ 50 สตางค์ เพื่อเป็นสวัสดิการช่วยเหลือครูและบุคคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ ปัจจุบันมียอดกว่า 6,000 ล้านบาท กองทุนนี้คณะกรรมการ สกสค. มีสิทธินำไปหาประโยชน์ หรือลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลได้
ทั้งนี้ รองเลขาธิการ สกสค. ยอมรับว่า มีการปล่อยกู้ในปี 2556 รวม 500 ล้านบาท และปี 2557 รวม 2,100 ล้านบาท ให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่จดทะเบียนในปลายปี 2555
ขณะที่ ผอ.สำนักกฎหมาย สกสค. ยืนยันดอกเบี้ยพร้อมเงินต้น 500 ล้านบาทได้รับคืนหมดแล้ว
ส่วนปี 2557 ที่ปล่อยกู้ให้เอกชนรายนี้นำไปลงทุน 2,100 ล้านบาท ครบกำหนดสัญญาเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่เอกชนขอขยายเวลาส่งคืนเงินต้น
การขยายเวลาครั้งนี้ เอกชนรายนี้ได้เพิ่มหลักทรัพย์นำมาวางเป็นหลักประกันไว้ โดยวันที่ 18 มีนาคมนี้ คณะกรรมการ สกสค. จะพิจารณาชี้ขาดเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม สมาชิก ช.พ.ค. ที่ให้ข้อมูลนี้กับคอลัมน์หมายเลข 7 ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบด้วยเช่นกัน โดยประสานงานผ่านผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.นครปฐม
สำหรับการพิจารณาของคณะกรรมการ สกสค. วันที่ 18 มีนาคมนี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ หากได้ข้อสรุปอย่างไรคอลัมน์หมายเลข 7 จะติดตามมานำเสนอ
ขอบคุณที่มาจาก CH7NEWS วันที่ 13 มีนาคม 2558
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครูร้องตรวจปล่อยกู้กองทุน ช.พ.ค. ตอน 1
...