ได้อ่านบทความนี้จาก นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับที่ 94 โดย รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยามหิดล มาเล่าถึง "Soy Peptide" ได้ดีจริงๆ ก็เลยนำมาแบ่งปันกันนะครับ
"Soy Peptide" สินค้าบำรุงสมองตัวใหม่ ที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์อย่างครึกโครม แต่จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ มันมีประโยชน์ หรือสามารถทำให้เราฉลาดขึ้น ได้จริงๆ เหรอ
เมื่อผ่านมาไม่นานนี้ มีสินค้าเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ซึ่งแปลกใหม่ในสายตาของประชาชน ที่ชื่อว่า "Soy Peptide" ซึ่งก็คือส่วนย่อยของโปรตีนที่ได้มาจากถั่วเหลือง โดยมีการโฆษณาแบบทุ่มทุนไม่อั้น จากการสังเกตจะพบว่าในช่วงเวลาไพร์มไทม์ โทรทัศน์ทุกช่องจะยิงโฆษณา "Soy Peptide" พร้อมกัน แม้ว่า อย.จะอนุญาตให้ขายและโฆษณาสินค้านี้ แต่นักวิชาการยังคงมีความสงสัย เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอ้างว่า "เมื่อกินเข้าไปแล้วจะดูดซึมไปช่วยสมอง"
ด้วยความสงสัยดังกล่าว จึงเริ่มหาตัวช่วยมาศึกษาเรื่องนี้ โดยใช้การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ Google พบว่า มีผู้รู้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ตรงไปตรงมาและปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับสินค้าตัวนี้ ดังนั้น จะขอยกตัวอย่างมาให้ดู พร้อมเพิ่มเติมข้อมูลบางประการ
· เว็บไซต์แรกระบุว่า "....ผลออกมาปรากฎว่า กลุ่มที่ได้รับ Soy Peptide มีแนวโน้มที่จะมีความจำ การเรียนรู้ที่ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กิน แต่ขอโทษครับ การทดลองนี้ทำในคนเพียง 10 คนเท่านั้น หากแบ่งเป็น 2 กลุ่มตามที่ว่า นั่นคือ มีเพียง 5 คนเท่านั้น ที่มีผลการทดลองแบบนี้" และอีกตอนก็มีการวิเคราะห์งานวิจัยชิ้นหนึ่งของผู้ผลิตว่า "....ผลการทดลองไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ที่ไหนเลย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า การทดลองนี้มีความเหมาะสมหรือไม่"
· ขณะที่อีกเว็บไซต์หนึ่ง ระบุว่า "...Soy Peptide are menufactured by fermentation of defatted soy grits." (Soy Peptide ถูกผลิตจากการหมักถั่วเหลืองไร้ไขมันบด)
คุณสมบัติของ Soy Peptide ที่ได้จากการหมักถั่วเหลืองกับแบคทีเรีย คือ สามารถทำให้เกิดการยึดเหนี่ยวกันระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ไม่แพ้กลูเตนในข้าวสาลี ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ไขมันจับตัวกับสารอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ สรุปแล้ว Soy Peptide สามารถทำเป็นอาหารสัตว์ได้ทุกอย่าง เพราะเป็นโปรตีนที่ดูดีมากๆ ผู้บริโภคจึงคงเบาใจได้ว่า เมื่อดื่มแล้ว จะได้รับโปรตีนอยู่บ้าง ไม่ใช่ได้แต่น้ำเปล่าผสมสารอาหารเล็กน้อย
จากการทำการวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองต่างๆ เช่น นมถั่วเหลือง เต้าหู้ และโยเกิร์ตถั่วเหลือง ทำให้ทราบว่า "นมถั่วเหลือง" หรือแม้แต่โปรตีนชนิดต่างๆ เมื่อถูกย่อยในกระเพาะอาหารคนหรือสัตว์ ก็จะได้ออกมาเป็น "Peptide" ที่สามารถจับสารพิษ เช่น สารก่อมะเร็งได้ด้วยคุณสมบัติทางกายภาพ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อีกว่า ในการหมักถั่วเหลืองด้วยแบคทีเรียนั้น อาจได้สารกระตุ้นภูมิต้านทานให้เข้มแข็งขึ้น ดังนั้น สินค้าที่เป็นถั่วเหลืองหมัก ก็คงไม่ถึงกับไร้ประโยชน์เสียทีเดียว แต่มันเป็นอย่างที่เด็กๆ ระบุไว้ในอีกเว็บไซต์ว่า
".....กินแล้วเกรดเฉลี่ยจะดีขึ้นหรือไม่ ส่วนผมยังไม่เคยกินเลย เพราะถ้ากิน Soy Peptide แล้ว คงต้องอดข้าวประมาณ 2 วัน ดังนั้น ถึงจะกิน Soy Peptide ได้ ตอนนั้นสมองผมคงจะฝ่อไปแล้วครับ (ราคาแพงมากๆ )" ?!?
นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่ทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรมในการเล่าความจริงให้ผู้บริโภคตาดำๆอย่างเราได้รับทราบมาโดยตลอด อาจจะหาได้ยากตามแผงหนังสือทั่วไปเพราะนิตยสารเล่มนี้อยู่ได้ด้วยมวลสมาชิกครับ สนใจสามารถติดต่อได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2248-3734-7 โทรสาร 0-2248-3733 อีเมล webmaster@consumerthai.org นะครับ
แหล่งข้อมูล
· รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยามหิดล "Soy Peptide" สินค้าบำรุงสมองตัวใหม่ ..... มันคืออะไรกันแน่นะ" ฉลาดซื้อ ฉบับที่ 94
|