พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ
● การจัดรถเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของกระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่าที่ประชุมได้รับทราบการจัดรถเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งออกแบบตกแต่งขึ้นเนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 โดยจะนำมาจัดแสดงภายในงานกาชาดประจำปีนี้
สำหรับเนื้องานที่ใช้ในการออกแบบตกแต่งรถยนต์ มีองค์ประกอบสำคัญ คือ จะเน้นบทบาทของกระทรวงศึกษาธิการ ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากพระราชกรณียกิจพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อนักเรียนนักศึกษา และการถวายพระราชสมัญญานาม “บรมราชกุมารีครูศรีแผ่นดิน” ซึ่งพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างความเป็นครูของแผ่นดิน
● เห็นชอบโครงการสร้างประสบการณ์แก่นักเรียนนักศึกษาในช่วงปิดภาคเรียน
จากการที่นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินโครงการกิจกรรมสำหรับนักเรียนนักศึกษาในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์นั้น
กระทรวงศึกษาธิการได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ เกิดการเรียนรู้ ฝึกทักษะ และมีรายได้ระหว่างเรียน จึงมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการและกิจกรรมสำหรับนักเรียนนักศึกษาในช่วงปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2557 ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2558 โดยมีเป้าหมายคือ นักเรียนนักศึกษาที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 7,326 คน ใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 33,800,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการและค่าตอบแทนที่เหมาะสม โดยจะเปิดรับสมัครในระหว่างวันที่ 1-4 เมษายน 2558 ณ ที่ตั้งของส่วนราชการและสถานศึกษาในสังกัด สพฐ./สอศ./สกอ./สป. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งโรงพยาบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ พร้อมทั้งจะมีการเปิดตัวโครงการในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2558 ที่กระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวฝากให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวง (สนย. สป.) ซึ่งเป็นเจ้าภาพดำเนินการ หารือกับกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าตอบแทน ขอบเขต และชั่วโมงการทำงานต่างๆ ที่เหมาะสมต่อไปด้วย
● รับทราบแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ประชุมได้รับทราบแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ สนย.สป. เสนอ ซึ่งได้วิเคราะห์ความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ที่ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการ จึงได้จัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการ ที่มีความสอดคล้องกับการปรับปรุงคำของบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
วิสัยทัศน์ “คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก”
พันธกิจ
1) ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาสู่สากล
2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค
3) พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
ยุทธศาสตร์ 9 ด้าน คือ
1) การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
2) การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3) การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ
4) การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
5) การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
6) การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
7) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
8) การดำเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน
9) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
เป้าประสงค์
1) นักเรียนนักศึกษา ประชาชน ได้รับความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย และยึดหลักความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และมีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติด
2) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ มีความตระหนัก ร่วมอนุรักษ์ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย
3) นักเรียนนักศึกษาทุกกลุ่มได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กำหนดไว้
4) กำลังคนระดับกลางและระดับสูงมีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับการพัฒนา
7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการเผยแพร่ นำไปใช้ประโยชน์หรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์
8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ เพื่อยกระดับเข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
11) ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต
12) นักเรียนนักศึกษา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการเสริมสร้างความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค
13) หน่วยงานมีระบบบริหารและจัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
งบประมาณในแผนปฏิบัติราชการ ประกอบด้วย
- งบประมาณตามนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม และนโยบายที่เกี่ยวข้อง เช่น นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมแลชะการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ฯลฯ
- งบประมาณในลักษณะบูรณาการ จำนวน 14 เรื่อง เช่น การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ฯลฯ
● รับทราบรายงานผลการตรวจราชการตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ 2558
ที่ประชุมได้รับทราบการรายงานผลการตรวจราชการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และข้อสั่งการของ รมว.ศึกษาธิการ ของเขตตรวจราชการที่ 10 และ 12 ได้แก่ หนองคาย หนองบัวลำภู เลย อุดรธานี บึงกาฬ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ที่มีผลการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ คือ
การเรียนร่วมระหว่างโรงเรียนสายสามัญ (สพฐ.) กับวิทยาลัยอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนด้านอาชีวศึกษา เช่น โรงเรียนนำร่องในจังหวัดร้อยเอ็ดและมหาสารคาม ซึ่งได้จัดการเรียนการสอนร่วมระหว่างวิทยาลัยเทคนิควาปีปทุมกับโรงเรียนประชาพัฒนา อ.ปทุมวาปี จ.มหาสารคาม ซึ่งอยู่ห่างกัน 3 กิโลเมตร โดยจัดการเรียนร่วมในสาขาคอมพิวเตอร์ 36 คน และสาขาบัญชี 27 คน แต่เนื่องจากวิทยาลัยเทคนิควาปีปทุม ยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลาเรียนวิชาภาคปฏิบัติ ทำให้ต้องจัดการเรียนการสอนในวันเสาร์ด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 2 แห่ง จึงต้องร่วมกันพิจารณาชั่วโมงการเรียนการสอนให้เหลือวิชาสามัญ 4 วัน และวิชาภาคปฏิบัติ 1 วัน ต่อไป
การปฏิรูปผู้เรียนสู่การเรียนรู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 ซึ่งเป็นเขตนำร่องโครงการปฏิรูปสู่การเรียนรู้ ได้จัดโรงเรียนนำร่องเพื่อเป็นต้นแบบ (โรงเรียนบ้านบึงเนียมบึงใคร่นุ่น) ให้กับโรงเรียน 15 แห่งใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองขอนแก่น อ.บ้านฝาง และ อ.พระยืน โดยมีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วมจัดหน่วยการเรียนรู้ให้กับนักเรียน ป.1 ป. 3 และ ป.6 ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำกับครู และกลุ่มของตนเอง
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การประสานข้อมูลการให้บริการแก่ประชาชนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยดำเนินงานร่วมกับผู้ว่าราชการทั้ง 9 จังหวัดในภาคอีสาน, การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน โดยจะต้องเน้นการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษาและประชาชน เกี่ยวกับความสำคัญและผลกระทบของการเป็นประชาคมอาเซียนให้มากขึ้น, การส่งเสริมการอ่านและการเขียน ซึ่งทุกเขตพื้นที่การศึกษาได้กำหนดเป้าหมายให้นักเรียน ป.1-ป.3 อ่านออก เขียนได้ ชั้น ป.4-ป.6 อ่านคล่อง เขียนคล่อง โดยจะมีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจนในอนาคต ในส่วนของการส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ทุกหน่วยงาน/สถานศึกษาได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย และมีข้อเสนอแนะให้กำหนดตัวชี้วัดของคุณลักษณะที่พึงประสงค์
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวย้ำในที่ประชุม ขอให้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเดินทางไปประชุมทั้งในประเทศและต่างประเทศของผู้บริหารรดับกระทรวงโดยทางเครื่องบิน เช่น อธิบดี ขอให้เดินทางในชั้นประหยัด ส่วนกรณีที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศให้พิจารณาตามความเหมาะสม ขณะที่ระดับรองอธิบดีลงมาก็ให้เดินทางในชั้นประหยัด ส่วนการไปศึกษาดูงานต่างประเทศนั้น หากกิจกรรมใดที่มีความจำเป็นน้อยก็ปรับลดให้เกิดความเหมาะสม แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการศึกษาดูงานในต่างประเทศ ก็ขอให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถเชิญวิทยากรมาบรรยายในประเทศได้หรือไม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่วนกรณีการแต่งตั้งซูเปอร์บอร์ด ด้านการศึกษา ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานนั้น กระทรวงศึกษาธิการพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้การจัดการศึกษาในภาพรวมมีคุณภาพต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ