“บิ๊กตู่” ปวดใจใช้จ่ายภาครัฐสุดอืดเงินไม่ออก ชี้แบ่งเป็นโครงการเล็กคนเมิน ผู้ประกอบการเห็นกำไรจิ๊บจ๊อยไม่สนประมูล สั่งแก้เงื่อนไขลดเวลาเบิกจ่าย ครม.อนุมัติอีก 40,000 ล้านบาทเร่งสร้างถนนทั่วประเทศ หวังหมุนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หารือถึงการขับเคลื่อนงบประมาณที่ยังมีปัญหาหลายอย่าง ซึ่งไม่ใช่ความบกพร่องของใคร แต่เป็นเรื่องของระเบียบวิธีการ โดยงบประมาณในปี 2558 ของรัฐบาลชุดนี้ จะแตกต่างจากงบประมาณของทุกรัฐบาล โดยเน้นให้ลงไปถึงทุกพื้นที่ จึงเป็นโครงการย่อยๆจำนวนมากนับหมื่นโครงการ ทำให้หาผู้ประกอบการมาร่วมประมูลยากเพราะเป็นการก่อสร้างที่ใช้งบประมาณไม่มากเพียง 5-10 ล้านบาท หรือบางโครงการเป็นหลักแสนบาท โดยเฉพาะโครงการส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
“ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนบูรณาการโครงการต่างๆให้มารวมกันเพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความสนใจ โดยสั่งให้กระทรวงมหาดไทย อปท.ผู้ว่าราชการจังหวัดไปขับเคลื่อนการทำสัญญา เร่งกำหนดเวลาว่าจะลงมือเมื่อใด อย่างไร ขอให้มั่นใจและไว้ใจว่ารัฐบาลทำทุกอย่างมีเป้าหมาย ลดความเหลื่อมล้ำ ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างจะบีบเวลาให้น้อยลง จะใช้ขั้นตอนปกติไม่ได้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ทุกกระทรวงรับไปเร่งดำเนินการหมดแล้ว ไม่อย่างนั้น งบประมาณจะไปออกในช่วงปลายปีในไตรมาส 3-4 เหมือนที่ผ่านมาอีก”
ขณะที่ ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเร่งรัดหน่วยงานในพื้นที่ ที่มีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับโครงการขนาดเล็กวงเงิน 5-10 ล้านบาท ที่ผู้ประกอบการเห็นว่ามีกำไรน้อย จึงไม่สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลมากนัก จึงต้องให้ไปกระตุ้นและกระจายข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์ให้ผู้ประกอบการเกิดความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล
ขณะเดียวกัน ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงการปฏิบัติราชการและหลักเกณฑ์การปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.2548 เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณมีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น โดยปรับลดเวลา ประกอบด้วย การพิจารณาเรื่องเสนอความเห็น ครม.จากเดิม 5 วัน ปรับเหลือ 3 วันทำการ, การตอบข้อหารือทั่วไปของส่วนราชการจาก 5 วันเหลือ 3 วัน, การพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจาก 5 วันเหลือ 3 วัน, การพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลางจาก 5 วัน เหลือ 3 วัน, การพิจารณาอนุมัติเงินเพิ่มค่างานตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าเค) จาก 14 วันเหลือ 7 วัน, การพิจารณาความเหมาะสมของราคารายการผูกพันข้ามปีงบประมาณจาก 8 วันเหลือ 5 วัน, การพิจารณาอนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณจาก 8 วันเหลือ 5 วัน และการจัดสรรงบประมาณตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจาก 3 วันเหลือ 1 วัน
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ครม. ยังอนุมัติโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท โดยใช้เงินกู้วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท แยกเป็นกรมทางหลวง 25,000 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 15,000 ล้านบาท โดยนอกจากจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องการสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับโครงการในส่วนของกรมทางหลวงวงเงิน 25,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงทางหลวงเพื่อยกระดับการให้บริการของโครงข่ายและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนจำนวน 840 แห่ง วงเงิน 20,070 ล้านบาท 2.โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศจำนวน 11 สายทาง วงเงิน 4,930 ล้านบาท ส่วนโครงการของกรมทางหลวงชนบทวงเงิน 15,000 ล้านบาท จะเป็นโครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า โครงการตามแผนพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วนวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท จะสร้างรากฐานความมั่นคงเศรษฐกิจและสังคม สร้างโอกาสในการเข้าสู่เออีซี เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าการลงทุนเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค และเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งทำให้เกิดการจ้างงานเพื่อการก่อสร้าง ทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ทั้งนี้ กระทรวงฯจะเริ่มร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทฯ ที่สนใจเข้ามารับงานสร้างและซ่อมถนนรอไว้ก่อน คาดว่า ปลายเดือน มี.ค. หรือก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ น่าจะมีเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น.
ที่มา ไทยรัฐ 4 มี.ค. 2558