เว็บไซต์ต่างประเทศเปิดเผยเรื่องราวที่ทั้งน่าซาบซึ้งและสะเทือนใจของหนูน้อยเฉินเสี่ยวเทียนวัย 7 ขวบผู้ที่วงการแพทย์จะต้องจดจำไว้ในดวงใจไปตราบนานเท่านั้น ด้วยความกล้าหาญของเขาที่อยากจะบริจาคไตช่วยชีวิตนางโจว หลู ผู้เป็นแม่ ทั้งๆที่ตนเองก็ป่วยเป็นมะเร็งในสมองอยู่แล้ว
ตามรายงานระบุว่าแพทย์ตรวจพบเนื้องอกในสมองของเสี่ยวเทียนและหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือนหลู ผู้แม่ก็ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง สองแม่ลูกต่างดิ้นรนต่อสู้โรคร้ายนี้มาด้วยกันเป็นเวลา 2 ปีเต็ม แต่อาการก็แย่ลงเรื่อยๆทั้งคู่
แพทย์ชี้ว่าเสี่ยวเทียนจะไม่มีทางอยู่ไปได้จนเป็นผู้ใหญ่เนื่องจากเขาขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้ต้องนอนนิ่งอยู่กับเตียงเหมือนกับเป็นอัมพาต และส่วนหลูเอง ถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนไตก็จะไม่รอด จนในที่สุด เสี่ยวเทียนก็เลยพูดกับแม่ว่า "แม่ครับ ผมอยากช่วยชีวิตแม่"
หลู หยวนสิ่ว คุณยายวัย 57 ปีของเสี่ยวเทียน กล่าวว่า แพทย์ยืนกรานว่ายังไงหลานชายของเธอก็ไม่มีทางรอด แต่ไตของเขาจะช่วยชีวิตแม่ได้ และเมื่อเธอนำเรื่องนี้ไปคุยกับลูกสาว หลูก็ปฏิเสธท่าเดียวเพราะไม่อยากได้ยินว่าลูกชายสุดที่รักกำลังจะหมดลมหายใจ
แพทย์ยืนเคารพศพหนูน้อย
แต่สุดท้ายแล้วหลังจากที่เสี่ยวเทียนได้ยินแม่กับย่าคุยกันเขาก็ยังคงอยากที่จะช่วยชีวิตผู้ให้กำเนิดตนเช่นเดิมจนสุดท้ายแล้วหลูก็ตอบตกลงทั้งน้ำตา
เมื่อทีมแพทย์ทำการทดสอบเนื้อเยื่อของหลูกับเสี่ยวเทียนว่าเข้ากันได้แล้วหลังจากที่เสี่ยวเทียนเสียชีวิตลงการผ่าตัดก็เริ่มต้นขึ้นทันทีโดยไตข้างหนึ่งถูกนำไปเปลี่ยนถ่ายให้แม่ส่วนอีกข้างให้หญิงสาววัย 21 ปี และตับก็ถูกบริจาคให้ชายวัย 27 ปี
แม่ร่ำไห้หลังลูกชายเสียชีวิต
แม้จะเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆแต่หัวใจนั้นยิ่งใหญ่นักที่มีจิตใจดีงามคิดช่วยแม่ผู้มีพระคุณ และยังได้ต่อชีวิตให้กับคนอื่นๆอีกตั้ง 2 คนด้วย
ทางด้านหลูเอง แม้ว่าทุกวันนี้เสี่ยวเทียนอาจจะไม่ได้อยู่กับเธออีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็คงเป็นเพียงทางกายภาพเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรเสีย ไตของเขาก็ยังอยู่ในตัวเธอ ทำให้เหมือนกับลูกชายสุดที่รักยังอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่เคยหายไปไหน