ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แม่น้ำ 5 สาย...กับการปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศ


ข่าวการศึกษา 2 มี.ค. 2558 เวลา 14:12 น. เปิดอ่าน : 15,501 ครั้ง
Advertisement

แม่น้ำ 5 สาย...กับการปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศ

Advertisement

กลิ่น สระทองเนียม

การปฏิรูปประเทศตามโรดแม็พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำหนดไว้นั้นดูเหมือนว่าเวลาจะกระชับเข้ามาทุกขณะ คณะที่รับผิดชอบในแต่ละภารกิจที่เรียกกันว่า "แม่น้ำ 5 สาย" ซึ่งประกอบด้วย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็คงต้องเร่งดำเนินการกันอย่างเต็มที่ ภารกิจส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นงานหินของแต่ละฝ่ายอย่างยิ่ง เพราะ การปฏิรูปที่นอกจากจะต้องแก้โจทย์จากสารพันปัญหาภายในประเทศเองแล้ว ยังต้องพัฒนาให้สามารถอยู่ในสังคมโลกไร้พรมแดนที่มีการแข่งขันและเป็นหุ้นส่วนการดำเนินการทุกด้านอย่างมีศักดิ์ศรีให้ได้ อีกด้วย

ซึ่งการที่จะปฏิรูปให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกด้านให้ดีขึ้น อย่างทันตาเห็นตามที่ทุกฝ่ายคาดหวังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะงานด้านการพัฒนาบุคลากรของชาติให้มีคุณภาพ เป็น "คนดี คนเก่ง มีความสุข" ด้วยเป็นงานหนัก งานใหญ่ งานที่เห็นผลช้าและต้อง อาศัยสารพัดปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ด้วยคุณภาพบุคลากรของชาติถือเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาด้านอื่น ๆ ให้เกิดผลสำเร็จตามไปด้วย ดังนั้นแม้การศึกษาแม้เป็นงานยากแต่ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงเป็นด้านแรกที่ต้องเร่งดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ ซึ่งปัจจุบันคุณภาพการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในชาติเป็นอย่างไรคงไม่ต้องนำมาสาธยายกันอีก เพราะทั้งในและต่างประเทศต่างรู้กันหมดแล้ว ซึ่งมูลเหตุที่มาของปัญหานั้นเชื่อว่าตอนนี้แม่น้ำทั้ง 5 สายคงรับทราบจนเกินพอแล้วเป็นแน่ จึงเหลืออยู่ว่าจะหาทางแก้ไขและพัฒนาไปทางไหนเท่านั้นถึงจะทำให้การศึกษาเป็นเครื่องมือพัฒนาคนในชาติให้เป็น "คนดี คนเก่ง มีความสุข" ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

เรื่องการปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศ ที่ว่านี้ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สนช. ถึงความคืบหน้าการดำเนินการภารกิจสำคัญยิ่งนี้ว่าไปถึงไหนแล้ว ทั้งนี้เพื่อจะได้นำมาขยายผลให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ ซึ่งเรื่องนี้ คุณตวง ก็บอกว่าเป็นสิ่งที่คณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สนช. ต้องการให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับทราบความคืบหน้าของการดำเนินงานเช่นกัน คุณตวง บอกกว่าก่อนอื่นคงต้องให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่าการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ คือ ความหวังของคนไทยทุกคนที่คาดหวังว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสันติสุข เข้มแข็ง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และยกระดับความสามารถของพลเมืองได้สามารถแข่งขันในประชาคมอาเซียนได้ ซึ่งการปฏิรูป การศึกษาถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ ซึ่งทุกฝ่ายก็คงเห็นพ้องกันว่า "หากปฏิรูปการศึกษาไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ต้องพูดถึงการปฏิรูปในด้านอื่น ๆ"

ความสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาจึงถูกเอ่ยย้ำตลอดเวลาจาก นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งในการประชุมร่วมของแม่น้ำ 5 สายหรือในการประชุมเฉพาะแม่น้ำบางสายก็ตาม คณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สนช. ถือเป็นแม่น้ำสายแรกสุดนับตั้งแต่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ได้จับมือกับแม่น้ำอีก 4 สาย เดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการศึกษา จากเวทีภาคเหนือ เชียงใหม่ สู่ภาคอีสาน ขอนแก่น ภาคใต้ที่สงขลา และสุดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งแต่ละเวทีได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมมากมาย หลากหลายและมีพลังยิ่งในประเด็นต่าง ๆ ทั้งปัญหาและข้อเสนอแนะ ที่ได้รับจากเวทีทั้ง 4 ภูมิภาค ถูกนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นข้อมูลที่จะนำมาสู่การปฏิรูปการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศครั้งนี้ โดยแบ่งออก เป็น 3 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 เป็นกรอบแนวคิดที่จะต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว อาทิ สิทธิเสรีภาพทางการศึกษาและวิชาการ สิทธิความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางการศึกษา เป็นต้น

ส่วนที่ 2 เป็นข้อเสนอในการปฏิรูปการศึกษาทั้งในระยะ 1 ปีและระยะยาว โดยการแก้ไขกฎหมาย ประกอบด้วย ข้อเสนอในการปฏิรูปการเรียนรู้โดยปฏิรูปจากล่างขึ้นบน จากเด็กหรือผู้เรียนสู่ห้องเรียน จากห้องเรียนสู่สถานศึกษาและกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนทิศทางการปฏิรูปใหม่จากเดิมที่เคยปฏิรูปจากส่วนกลางไปถึงโรงเรียนและผู้เรียน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ และไม่ถึงตัวผู้เรียนอย่างแท้จริง นอกจากนั้นต้องมีการปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เกิดผลอย่างมีพลังและเกิดทันที ได้แก่ การแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงกลไกที่มีปัญหาอยู่ให้พัฒนา ทันสมัยมากขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้ทันต่อเหตุการณ์

ส่วนที่ 3 เป็นข้อเสนอในการปฏิรูปการศึกษา ที่สามารถนำไปดำเนินการโดยไม่ต้องรอแก้ไขกฎหมาย ด้วยการใช้นโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้เลยภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งส่วนนี้ก็จะทำให้เห็นผลได้ทันที เช่น นโยบายการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก นโยบายการแก้ปัญหาอาหารเสริม นม และอาหารกลางวัน นโยบายการเรียนอาชีวศึกษาแบบผสม นโยบายการแก้ปัญหาการอ่านไม่ได้ เขียนไม่ได้ ให้อ่านได้ อ่านคล่อง เขียนได้ การปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับข้อตกลงของประชาคมอาเซียนในด้านภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ หรืออาเซียนศึกษา เป็นต้น

ซึ่งกระบวนการทำงานร่วมกันของแม่น้ำ 5 สาย นั้นได้ดำเนินการอย่างสอดคล้องประสานกัน เช่น เมื่อ สปช.และ สนช.เห็นว่าควรต้องแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลังและเกิดผล เป็นรูปธรรม จากล่างขึ้นบน รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีก็จะต้องนำ เสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติและประกาศใช้บังคับตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. ต่อไป ดังนั้นแม่น้ำ 5 สายหลักที่ว่านี้จึงเป็นสายธารที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศด้วยการศึกษาและปฏิรูปการศึกษาให้บุคลากรของชาติเกิดคุณภาพซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาของประเทศให้เดินทางไปสู่สังคมสันติสุข เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในเวทีประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกต่อไปได้อย่างมั่นคงถาวรตลอดไป

จากการบอกเล่าของคุณตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สนช. กับการปฏิรูปการศึกษาเพื่อ พัฒนาบุคลากรของชาติแล้ว ก็คงพอทราบได้ว่าน่าจะไปในทิศทางใด จากประเด็นหลัก ๆ เมื่อถูกกำหนดเป็นกฎหมายและนำมาบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว การนำลงสู่ภาคปฏิบัติก็คงจะมีความชัดเจนตามมา เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต่อคนไทยและประเทศไทย เพราะหากปล่อยให้คุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิตคนไทย เป็นอยู่อย่างเช่นปัจจุบัน คงไม่ต้องบอกว่าจะมีปัญหาอะไรบ้างตามมา ช่วยกันอย่างจริงจังเสียทีเถอะครับกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชาติ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงวันนี้จะไปเกิดผลในอีก 10-15 ปี ก็ถือว่ายังไม่สายจน เกินไป เพราะสารพัดปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันก็น่าจะมากเกินพออยู่แล้ว หากยังปล่อยกันไปเรื่อย ๆ ความสุขของคนในชาติ ความเจริญก้าวหน้าของประเทศ คงไม่ต้องพูดถึงกันเพราะหากพูดก็จะกลายเป็นการดูถูกตัวเองไปเปล่า ๆ นั่นเองครับ.


ที่มา--เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 3 มี.ค. 2558 (กรอบบ่าย)


แม่น้ำ 5 สาย...กับการปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศแม่น้ำ5สาย...กับการปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ

แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 3,407 ☕ 17 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 508 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 678 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 771 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,376 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,059 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 953 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม
เปิดอ่าน 14,854 ครั้ง

วรรณคดีมรดกของไทยสมัยอยุธยา
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยอยุธยา
เปิดอ่าน 60,921 ครั้ง

เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ
เคล็ดลับดี ๆ ที่อยากส่งต่อ
เปิดอ่าน 11,337 ครั้ง

7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
7 วิธีป้องกันโรคหัวใจวาย
เปิดอ่าน 13,538 ครั้ง

ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
ลักษณะบุคคลที่มีความสามารถทางด้านพหุปัญญา
เปิดอ่าน 36,136 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ