วันนี้ (23ก.พ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติยืนยันว่า ในปีการศึกษา2558 จะใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ทั้ง 8กลุ่มสาระการเรียนรู้ มาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่นตามเดิม และจะทำหนังสือมายัง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อชี้แจงเหตุผล ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมรับฟังเหตุผล และคงต้องรอดูรายละเอียดจากทาง ทปอ. ว่ามีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ยังจำเป็นต้องสอบโอเน็ตทั้ง 8 กลุ่มสาระฯ ในการเข้าศึกษาต่อ โดยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ตนจะไปหารือเรื่องการลดการสอบโอเน็ตกับคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) อีกครั้งด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ ส่วนข้อเสนอที่ว่าจะต้องประกาศล่วงหน้าให้เด็กได้เตรียมพร้อมเป็นเวลา3 ปีนั้น โดยหลักการตนเห็นด้วย แต่จะประกาศล่วงหน้ากี่ปีนั้น คงต้องมาพูดคุย และรับฟังเหตุผลร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คะแนนโอเน็ตมีลักษณะคงที่หรือต่ำลงมาหลายปีแล้ว แม้ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีนโยบายให้ช่วยกันพัฒนาคะแนนโอเน็ตให้เพิ่มสูงขึ้น แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่เห็นความแตกต่างของคะแนน ตนจึงอยากให้ใช้โอกาสในปีนี้ซึ่งเป็นปีแห่งการปฏิรูปการศึกษาแก้ปัญหาทั้งระบบ โดยเน้นการเรียนรู้เชิงคิดวิเคราะห์ให้มากขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกับวิเคราะห์ปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น และหาเจ้าภาพหลักในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเนื้อหาในหลักสูตรการเรียนการสอน ที่สวนทางกับข้อสอบของ สทศ. อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ควรต้องใช้กระบวนการวิจัยร่วมด้วย เพื่อให้รู้สาเหตุที่แท้จริง.
ที่มา เดลินิวส์ วันจันทร์ 23 กุมภาพันธ์ 2558