ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ ร.ร.ศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์ฯ ว่า มีผู้มีสิทธิ์เข้าสอบทั่วประเทศ 21,963 ราย แยกเป็นตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา 6,124 ราย และผู้อำนวยการสถานศึกษา 15,834 ราย ขณะที่มีตำแหน่งว่างที่ประกาศรับ 4,257 ตำแหน่ง ภาพรวมการสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางธุรการ อาทิ ไฟดับ ชื่อผู้เข้าสอบไม่ตรงตามประเภทที่สมัคร อย่างไรก็ตาม ที่ ร.ร.ศรีอยุธยาฯ พบกรณีนำโทรศัพท์เข้าไปในห้องสอบแต่ปิดเครื่อง คณะกรรมการคุมสอบได้ให้ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบความผิดปกติ โดยดูที่เจตนาผู้เข้าสอบเป็นหลัก ทั้งนี้ สพฐ.จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้คะแนน 60% ขึ้นไปทั้งหมด หากจำนวนรายชื่อที่ประกาศเกินกว่าจำนวนที่รับก็จะขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี
ดร.กมลกล่าวด้วยว่า การสอบครั้งนี้มีมาตรการป้องกันการทุจริตเข้มข้น 100% และได้กำชับทุกเขตพื้นที่ฯ ดูแลอย่างใกล้ชิด กรณีที่มีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี และศาลปกครอง เพื่อขอให้ระงับ การสอบครั้งนี้นั้น สพฐ.ยึดหลักกฎหมายในการดำเนินการเป็นสำคัญ ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้สั่งการอะไร ขณะที่ศาลปกครองก็ไม่ได้มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉิน สพฐ.จึงตีความว่า สามารถจัดสอบได้ ส่วนกลุ่มที่ร้องถือเป็นเรื่องเก่าที่มีการร้องมานานแล้ว และคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ก็เคยมีมติไปแล้วว่าให้ยึดตามหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งขณะนั้นไม่ได้ใช้เกณฑ์ 60% แต่ใช้เกณฑ์บรรจุตามตำแหน่งที่ว่าง หากจะว่าตามสามัญสำนึกแล้ว กลุ่มดังกล่าวก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องตามหลักเกณฑ์ใหม่
ด้านว่าที่ ร.ต.อานนท์ สุขภาคกิจ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่มีผู้นำเข้าห้องสอบไม่พบข้อมูลส่อทางทุจริต ผู้สอบก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยทำบันทึกสละสิทธิ์การสอบครั้งนี้ เพราะหากไม่สละสิทธิ์ คณะกรรมการคุมสอบจะต้องดำเนินการตามระเบียบ เพราะการนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบเป็นความผิดชัดเจน.
ที่มา: http://www.thairath.co.th