วันนี้(12 ก.พ.) รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวบทบาทของสภาการศึกษาในยุคปฎิรูปการศึกษา ว่า ในช่วงปลายปี 2557 สกศ.ได้รับหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษา ซึ่งได้มีการตั้งคณะอำนวยการปฎิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการขึ้น พร้อมกับปรับบทบาทของ สกศ.ในยุคปฎิรูปการศึกษาอีกครั้ง จากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติ พร้อมกับเพิ่มบทบาทใหม่ให้เป็นองค์กรที่กำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ระดับชาติ เป็นคลังข้อมูลทางการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ทั้งฐานข้อมูลสถิติ งานวิจัย รวมถึงการจัดทำแผนการผลิตกำลังคน พร้อมทำหน้าที่วิเคราะห์และจัดทำงบประมาณตามแผนพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ของประเทศด้วย โดยองค์กรใหม่นี้จะขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีการทำงานขับเคลื่อนโดยคณะบุคคลที่ชื่อว่า คณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติ ประกอบด้วย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน ที่มีวิสัยทัศน์ มีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ปลอดจากการแทรกแซงของปัจจัยภายนอก โดยขณะนี้ สกศ.อยู่ระหว่างดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมโอนกลับไปสู่สำนักนายกรัฐมนตรี
เลขาธิการ สกศ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงสร้าง สกศ.ใหม่จะไม่ทำเรื่องการศึกษาอย่างเดียว แต่จะไปทำเรื่องการผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศด้วย ซึ่งจะดูนโยบายภาพรวมของประเทศว่า ประเทศต้องการพัฒนาไปในทิศทางไหน จากนั้นเราจะผลิตคนให้ตรงตามคุณลักษณะนั้น อีกทั้งยังมีข้อเสนอแนะจากสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า การทำเรื่องแผนพัฒนาการศึกษาชาติที่ผ่านมามักจะมีคนทำบ้างไม่ทำบ้างและไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร ดังนั้นจึงอยากให้ สกศ.เพิ่มบทบาทในกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณด้านการศึกษาด้วย โดยจะทำหน้าที่คล้ายกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่สามารถกำหนดวงเงินงบประมาณ และนำความเห็นเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพิจารณาได้ เช่น ทิศทางการศึกษาที่จะต้องตอบโจทย์การพัฒนาประเทศนั้น ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ สกศ.ก็จะทำหน้าที่กำหนดกรอบวงเงินงบประมาณ และเสนอให้ ครม.พิจารณา เป็นต้น
“การนำกลไกทางการเงินมากำหนดการพัฒนาการศึกษาชาตินั้น จะเป็นเรื่องที่ดีและได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง หากโรงเรียนไหนไม่อยากพัฒนาก็ไม่ต้องได้เงิน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สถานศึกษาตื่นตัวที่จะพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อให้ได้รับงบประมาณอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในอนาคต สกศ.จะเขียนกฎหมายกำกับเรื่องคุณภาพการศึกษาเอาไว้ด้วย”รศ.ดร.พินิติกล่าว
ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 12 กุมภาพันธ์ 2558