พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ ในประเด็นเห็นชอบในหลักการของหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย
-เห็นชอบในหลักการ ของหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่ ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งใช้กับทุกส่วนราชการตาม ว 2/2557 รวมทั้งได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตาม ว10/2557 เพื่อใช้กับหลักเกณฑ์ฯ เดิมตาม ว2/2557 นั้น
ต่อมา ก.ค.ศ.ได้ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ ตาม ว 2/2557 และได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขึ้นใหม่ ตาม ว18/2557 พร้อมทั้งได้กำหนดว่าการนำรายชื่อรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด
ที่ประชุม ก.ค.ศ. จึงได้พิจารณา และมีมติเห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. การนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ให้ทำได้โดยการตกลงยินยอมของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเจ้าของบัญชี และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้
2. ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ โดยพิจารณาการขอใช้บัญชี โดย
- ให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาใกล้เคียงในจังหวัดเดียวกันก่อน หากไม่มี
- ให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาใกล้เคียงที่มีพื้นที่ติดต่อกันตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ใกล้เคียงที่สุด หากไม่มี
- ให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ใกล้เคียงที่สุด หากไม่มี
- ให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาในภูมิภาคอื่นที่มีบัญชีสอบแข่งขันได้ โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ใกล้เคียงที่สุด
3. บัญชีสอบแข่งขันได้ที่ประกาศใหม่ ให้มีอายุการขึ้นบัญชีเท่ากับบัญชีเดิม
4. ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเจ้าของบัญชี ดำเนินการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ พร้อมทั้งแจ้งรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ขอใช้บัญชีทราบให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้
5. เมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้จาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเจ้าของบัญชีแล้ว ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้
-อนุมัติตั้งอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ที่ประชุมอนุมัติตั้งอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 3 ราย ดังนี้
1) นายชาลี นาคเอี่ยม เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 (กำแพงเพชร และพิจิตร) แทนตำแหน่งที่ว่าง
2) นายมนัส กะระกล เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42 (นครสวรรค์ และอุทัยธานี) แทนตำแหน่งที่ว่าง
3) นายวิรัช วัฒนธรรม เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 แทนตำแหน่งที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม รมว.ศึกษาธิการได้มอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดีแก่นายกิจสุวัฒน์ หงส์เจริญ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารองค์กรใน ก.ค.ศ. และ ดร.ศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน” พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณที่ทั้งสองท่านได้ช่วยงานด้านการศึกษา และ ก.ค.ศ.อย่างดีมาโดยตลอด ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในการหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ และจะคอยเป็นกำลังใจให้ต่อไป
"สำหรับประเด็น การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการอื่นมาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู "ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี" จะนำเสนอเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2558)"
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ