พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการตามที่ก.ค.ศ.เสนอหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ให้ทำได้โดยการตกลงยินยอมของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯเจ้าของบัญชี และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯที่ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้
2. ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ฯขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ โดยพิจารณาการขอใช้บัญชี โดยให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯใกล้เคียงในจังหวัดเดียวกันก่อน หากไม่มีให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯใกล้เคียงที่มีพื้นที่ติดต่อกันตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ใกล้เคียงที่สุด หากไม่มีให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้งสพท.ใกล้เคียงที่สุด หากไม่มีให้ขอรายชื่อจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯในภูมิภาคอื่นที่มีบัญชีสอบแข่งขันได้ โดยพิจารณาระยะทางจากที่ตั้ง สพท.ที่ใกล้เคียงที่สุด
3. บัญชีสอบแข่งขันได้ที่ประกาศใหม่ ให้มีอายุการขึ้นบัญชีเท่ากับบัญชีเดิม
4. ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯเจ้าของบัญชี ดำเนินการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ พร้อมทั้งแจ้งรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯที่ขอใช้บัญชีทราบให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ และ
5. เมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯที่ขอรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้จาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเจ้าของบัญชีแล้ว ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้
ด้าน นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า จากนี้ก.ค.ศ. ต้องไปออกหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจน โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะสามารถเริ่มใช้ได้ทันทีในการสอบขึ้นบัญชีครูผู้ช่วยครั้งนี้ เชื่อว่าจะทำให้การขอเรียกขึ้นบัญชีข้ามเขตพื้นที่ฯสามารถทำได้เร็วขึ้น โดยเขตพื้นที่ฯที่ไม่มีการเปิดสอบก็สามารถเรียกใช้บัญชีจากเขตพื้นที่ฯ ที่เปิดสอบได้ แต่ต้องเรียกจากบัญชีในพื้นที่ฯ ใกล้เคียงในจังหวัดเดียวกันก่อน หากไม่มีเอกที่ต้องการจึงจะสามารถเรียกจากเขตพื้นที่ฯใกล้เคียงได้ ส่วนหนึ่งเพื่อให้ครูได้ทำงานในภูมิลำเนาใกล้บ้าน ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้นแน่นอน
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กุมภาพันธ์ 2558
รายละเอียดที่เกี่ยวข้อง
ผลการประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558