นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีประชาชนจุดประทัดเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดเสียงดัง มีระดับเสียงกระแทกสูงกว่า 130 เดซิเบล เอ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้คือ เสียงที่เป็นอันตรายคือ เสียงที่ดังเกิน 85 เดซิเบล เอ จะทำให้เกิดอาการหูตึงชั่วคราว หูอื้อและปวดในหูโดยทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาก และหากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง
หากยังไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์ หรือหูอาจมีเสียงดังวิ้งหรือวี้ และได้ยินไม่ชัด ถ้าไม่หายภาย ใน 2-3 ชั่วโมง หรือมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน มึนงง แสดงว่าอาจกระเทือนไปถึงหูชั้นใน อาจมีเยื่อของหูชั้นในฉีกขาด ต้องรักษาโดยด่วน และถ้าได้รับเสียงดังในช่วงเวลายาวนานจะทำให้หูตึง ถาวรได้
นอกจากนี้ เสียงดังของประทัดยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิต หรือส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้หงุดหงิด และนอนไม่หลับอีกด้วย
ทางด้านนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการวิจัยผู้สูงอายุในไทย พบความรุนแรง ของการสูญเสียการได้ยินในเพศชาย ร้อยละ 8.0 ผู้สูงอายุหญิงไทย ร้อยละ 6.9 ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเสื่อมของอวัยวะทุกส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการได้ยินเนื่องจากอายุที่มากขึ้น การได้รับเสียงดังเกินไปหรือสัมผัสเสียงดังซ้ำๆ เป็นเวลานาน และกิจกรรมสันทนาการที่เสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยิน เช่น การยิงเป้า การฟังเพลงในระดับเสียงดังผ่านหูฟัง เป็นต้น
ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์