นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการด้านการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวเสวนาในงาน "แม็ค เอ็ดดูก้า 2015" จัดโดยบริษัท แม็คเอ็ดดูเคชั่น จำกัด ในหัวข้อ "หัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา" ว่า ผลลัพธ์ของการปฏิรูปการศึกษาคือผู้เรียน ดังนั้นจะต้องมีการปรับการเรียนการสอน เพิ่มเรื่องสื่อการสอนให้มากขึ้น จึงทำให้ต้องปรับบทบาทหน้าที่การสอนของครูใหม่ โดยการเปลี่ยนครูให้เป็นเหมือนชุดความรู้จำนวนมากทำหน้าที่หาความรู้จากภายนอกควบคู่ไปกับความรู้ในตำรา เพราะในปัจจุบันความรู้ไม่ได้อยู่แต่ในห้องสมุดหรืออยู่ที่ตัวครูอีกต่อไปแล้ว เด็กนักเรียนทุกคนสามารถหาความรู้ได้จากอินเทอร์เน็ตที่ง่ายและสะดวก ฉะนั้นครูที่เป็นผู้ทำหน้าที่ในการสอน จะสอนในรูปแบบเก่าก็อาจจะไม่ได้ผล จะต้องมีการปรับหน้าที่ของครูให้เป็นผู้ที่ชี้แนะแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และครูจะทำหน้าที่เป็นผู้ที่สอนทักษะการจัดการความรู้ให้แก่เด็ก เช่น เด็กมีความถนัดด้านกีฬาฟุตบอล ครูจึงแนะนำให้ไปศึกษาเทคนิคการเรียนฟุตบอลจากในเว็บไซต์ จากนั้นครูจะเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือการจัดการความรู้ที่เด็กมี เพื่อที่จะสร้างความความรู้เฉพาะตัวของเด็ก เป็นต้น
นายตวงกล่าวต่อว่า คุณลักษณะของครูภายหลังการปฏิรูปการศึกษาจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ ครูที่เกิดจากการผลิตและพัฒนาใหม่ ในลักษณะของการเป็นครูพันธุ์ใหม่ คือเป็นครูที่อยู่ในศตวรรษที่ 21 สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการค้นหาความรู้ได้ และมีทักษะในการสอนการใช้ความรู้ทั้งนอกตัวและในตัวสอนให้เด็กได้ และครูอีกจำนวนหนึ่งที่เข้ามารับราชการครูแล้วและยึดมั่นในอุดมการณ์การสอน ซึ่งจำเป็นต้องมองถึงการพัฒนาในเรื่องวิธีคิด อุดมการณ์การเรียนการสอนที่ก้าวทันกับศตวรรษที่ 21 ซึ่งจำเป็นที่ต้องมีหลักสูตรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ครูจะต้องเป็นผู้ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยอาจจะเป็นการพัฒนาตามวงรอบที่กำหนด หรืออาจจะพัฒนาเมื่อไรก็ได้ตามความต้องการของครู แต่ไม่ใช่เป็นเพียงการไปนั่งอบรมอีกต่อไป
“การปฏิรูปการเรียนรู้ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในอดีตเรามีความพยายามทำการปฏิรูปการศึกษา แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องการเรียนรู้เลย กลับไปเน้นเรื่องการปฏิรูปโครงสร้าง ยุบรวมกรม ทบวง ตั้งเขตพื้นที่ต่างๆ เพราะหวังว่าการปรับโครงสร้างต่างๆ จะเสริมสร้างคุณภาพเพื่อนำไปสู่ผู้เรียนได้ แต่ผลตอบรับที่ออกมาในรูปแบบการประเมินจากองค์กรต่างๆ ก็ยังแสดงให้เห็นว่าการศึกษาไทยนั้นยังไม่มีคุณภาพ จากนี้การปฏิรูปการศึกษาจะต้องมุ่งลงสู่ห้องเรียน เข้าไปถึงตัวเด็กและครูสถานศึกษา และจึงจะมาปฏิรูปในระดับกระทรวง” ประธาน กมธ.ด้านการศึกษาและกีฬากล่าว.
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558