ที่ประชุมอธิการบดี มรภ.ทั่วประเทศ ถกยุทธศาสตร์ 10 ปี หวังยกระดับคุณภาพบัณฑิต เตรียมออกข้อบังคับการให้เกียรตินิยม ชี้ที่ผ่านมามีการปล่อยเกรดเฟ้อ ได้เกียรตินิยมมากผิดปกติ จี้แต่ละสถาบันไปตรวจสอบตนเองโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม มีการประชุม ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.)ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 (121) 2558 โดยมี มรภ.เลย เป็นเจ้าภาพ และมีอธิการบดีจาก มภร. 39 แห่ง จากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม และมี ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดี มรภ.เพชรบุรี เป็นประธานที่ประชุม
ในการประชุมมี 5 วาระที่นำมาหารือ พร้อมกับมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ปฏิรูปการศึกษาปฏิรูปราชภัฏ” โดย ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อดีตอธิการบดี มรภ.สุราษฎร์ธานี รองประธานคณะอนุกรรมาธิการการศึกษา คนที่ 1 สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษา พร้อมกับเปิดโอกาสให้ที่ประชุมมีการถกในเรื่องแนวทางการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อยกคุณภาพมาตรฐานมหาวิทยาลัยราชภัฏสู่คุณภาพเป็นเลิศ ระยะ 10 ปี (พ.ศ.2558-2567) การผลิตและการพัฒนาวิชาชีพครู การบริหารจัดการสาธารณะและท้องถิ่น แนวคิดการพัฒนา มรภ.ในอนาคต รวมทั้งการปรับเปลี่ยนทิศทางและเป้าหมาย (Re- profile) ของ มรภ.ให้อยู่ในจุดที่ควรจะเป็น ระบบธรรมาภิบาลและการจัดการของ มรภ. ความรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษาเรื่องการมีงานทำของบัณฑิต และข้อบังคับว่าด้วยการให้ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรีได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง และหลักเกณฑ์การวัดผล และประเมินผลการเรียนในรายวิชาระดับปริญญาตรี
ด้าน ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม ประธานที่ประชุม กล่าวเสริมแผน 10 ปีว่า อยู่ในขั้นตอนลงมือปฏิบัติ โดยแต่ละสถาบันสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ตามความถนัด อย่างไรก็ดี ทราบด้วยว่าขณะนี้มีบัณฑิตระดับปริญญาตรีใน มรภ.ได้เกียรตินิยมมากผิดปกติ จึงมีความกังวลในเรื่องการปล่อยเกรด จึงกระตุกแรงๆ ให้แต่ละสถาบันกลับไปตรวจสอบระบบการให้เกรดของตนเองโดยด่วน ว่าสะท้อนคุณภาพที่แท้จริงหรือไม่ เพราะแม้ มรภ.จะเป็นสถาบันที่ให้โอกาสทางการศึกษา แต่อยากให้คงมาตรฐานไว้
"นับว่าในการประชุมครั้งนี้มีการถกเถียงเต็มที่ ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ถกเถียงกันในที่ประชุมคือ เรื่องการปรับทิศทางของมหาวิทยาลัยราชภัฏ เนื่องจากแต่ละแห่งเป็นนิติบุคคลของตนเอง โดยให้แต่ละแห่งจัดตั้งคณะกรรมการปรึกษาหารือกันให้ชัดเจนกันภายในก่อน และนำมาเข้าที่ประชุมในคราวหน้า ในวันที่ 25-26 มีนาคม" ผศ.ดร.นิวัตกล่าว
ด้าน ผศ.สนิท เหลืองบุตรนาค อธิการบดี มรภ.เลย กล่าวเสริมว่า ตามที่ คสช.มีนโยบายที่จะปฏิรูปการศึกษา ทางราชภัฏเองต้องมาทบทวนว่าการที่ยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยมา 10 ปีนั้น ได้พัฒนาการศึกษาและผลิตบัณฑิตเพื่อออกไปรับใช้สังคม ท้องถิ่น และประเทศชาติ สอดคล้องกับนโยบายหรือไม่.
ที่มา ไทยโพสต์ 30 มกราคม 2558